ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับ กสทช. และสรรพสามิต ลุยทลายโกดังวิทยุสื่อสารเถื่อนกลางกรุง
กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กรมสรรพสามิต ตรวจค้นแหล่งซุกซ่อนและจำหน่ายวิทยุสื่อสารเถื่อนกลางกรุง ยึดของกลางกว่า 260 เครื่อง มูลค่ากว่า 400,000 บาท
ตามที่ปัจจุบันได้มีการลักลอบนำเข้าเครื่องวิทยุโทรคมนาคมและอุปกรณ์โดยผิดกฎหมาย และลักลอบจำหน่ายให้แก่บุคคลทั่วไป ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงได้สั่งการให้ดำเนินการสืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง โดยประสานข้อมูลกับ สำนัก งานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และ กรมสรรพสามิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายวิทยุสื่อสาร ผ่านทางช่องทางออนไลน์ Facebook โดยมีผู้ติดตามกว่า 5,000 คน จึงได้รายงานให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้าย คลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ทราบ และวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.พรชัย บัวด้วง รองผู้กำกับการ 4 ร่วมกับ เจ้าพนักงาน กสทช. และ กรมสรรพสามิต นำหมายค้นของศาลอาญากรุงเทพใต้ เข้าตรวจค้นตึกแถวแห่งหนึ่ง บริเวณถนนจารุเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยพบ นายพัด (นามสมมติ) แสดงตัวเป็นเจ้าของและเป็นผู้นำตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภทวิทยุสื่อสาร ตราอักษร BAOFENG รุ่น BF-888s จำนวน 269 เครื่อง มูลค่ารวมกว่า 403,500 บาท สอบถามนายพัด ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้จัดจำหน่ายวิทยุสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “มีและค้า ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” จับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จึงฝากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ในการใช้วิทยุโทรคมนาคมขอให้ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบ ที่ทางราชการได้กำหนดไว้ ทั้งนี้หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงาน กสทช. Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1200
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน