กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับข้อมูลว่าพบบริษัทแห่งหนึ่งมีการแสดงเอกสารการจดทะเบียนนิติบุคคล เป็นบริษัทมหาชนซึ่งมีทุนจดทะเบียนสูงกว่า300 ล้านบาทเชิญชวนประชา ชนทั่วไปให้สมัครแพ็คเกจลงทุนกับบริษัท ซึ่งอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูงเพื่อรับเงินปันผลสูง สุดกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเงินปันผลดังกล่าวเรียกว่าเงินปันผล ROI. คือการแบ่งผลประโยชน์จากการร่วมกันลงทุน โดยจะจ่ายเงินปันผล ROI. ให้สมาชิกทุกวันศุกร์จำนวน 95 งวด ซึ่งหลังจากครบ 95 งวด จะมอบหุ้นให้ถือครองตามแพ็คเกจที่จองไว้และสามารถเลือกที่จะรับปันผลต่อไปหรือขายหุ้นก็ได้ตามความสมัครใจของ
ผู้ลงทุนโดยการลงทุนแพ็คเกจต่างๆ มีตั้งแต่แพ็คเกจลงทุน1,000 บาทจนถึง1 ล้านบาท เช่น แพ็คเกจลงทุน1,000 บาท รับปันผลสัปดาห์ละ50 บาททุกสัปดาห์ จำนวน 95 ครั้งรวมรับเงินปันผลสูงสุด 4,750 บาท และรับหุ้นสามัญบริษัท10 หุ้น, แพ็คเกจลงทุน 1 ล้านบาท รับปันผลสัปดาห์ละ 50,000 บาททุกสัปดาห์ จำนวน 95 ครั้ง รวมรับเงินปันผลสูงสุด 4,750,000 บาท และรับหุ้นสามัญบริษัท10,000 หุ้น เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความเชื่อมั่นกับสมาชิกว่าเงินปันผล ROI. ซึ่งจ่ายให้กับสมาชิกรายสัปดาห์ในทุกวันศุกร์ ไม่ใช่ดอกเบี้ยจึงไม่ถือว่าเป็นการจ่ายดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด
กรมสอบสวนคดีพิเศษขอแจ้งเตือนว่าตามมาตรา3 ในพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนพ.ศ. 2527 กำหนดว่า “กู้ยืมเงิน” หมายความว่า รับเงินทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดไม่ว่าในลักษณะของการรับฝาก การกู้การยืม การจำหน่ายบัตรหรือสิ่งอื่นใด การรับเข้าเป็นสมาชิก การรับเข้าร่วมลงทุน การรับเข้าร่วมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือในลักษณะอื่นใด โดยผู้กู้ยืมเงินหรือบุคคลอื่น จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการรับเพื่อตนเองหรือรับในฐานะตัวแทน หรือลูกจ้างของผู้กู้ยืมเงิน หรือของผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือในฐานะอื่นใด และไม่ว่าการรับหรือจ่ายเงินทรัพย์สินผลประโยชน์อื่นใด หรือผลประโยชน์ตอบแทนนั้นจะกระทำด้วยวิธีการใดๆ
“ผลประโยชน์ตอบแทน” หมายความว่า เงินทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด ที่ผู้กู้ยืมเงิน หรือบุคคลอื่นจ่าย หรือจะจ่ายให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินเพื่อการกู้ยืมเงิน ทั้งนี้ไม่ว่าจะจ่ายในลักษณะดอกเบี้ย เงินปันผลหรือลักษณะอื่นใด
ดังนั้นการประกอบธุรกิจตามที่บริษัทดังกล่าวอ้างข้างต้น อันเข้าข่ายเป็นการกู้ยืมเงินตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบรายละเอียดในการประกอบธุรกิจว่า จะมีลักษณะเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวหรือไม่ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนทั่วไปให้พึงระมัดระวัง
การลงทุนในรูปแบบดังกล่าวและแจ้งเตือนให้ทราบว่าแชร์ลูกโซ่มักจะมาในรูปแบบของธุรกิจที่ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ที่น่าสนใจและโฆษณาชักชวนให้ร่วมลงทุนในระยะสั้นโดยอ้างว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราที่สูง โดยใช้วิธีการนำเงินจากผู้ที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่จ่ายผลตอบแทนให้สมาชิกเก่า เพื่อให้เห็นว่าธุรกิจสามารถดำเนินการได้จริงภายหลังที่ระดมทุนได้มากแล้ว จะหยุดดำเนินการและหลบหนีไปพร้อมเงินของผู้เสียหาย ซึ่งจะเกิดความเสียหายลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงขอให้ประชาชนพึงระมัดระวังในการเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ โดยควรศึกษาความเป็นไปได้ของธุรกิจก่อนเข้าร่วมลงทุน และหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถาม หรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษโทร. 1202 (โทรฟรีทั่วประเทศ)
ขอบคุณข้อมูล : คณะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ