ศูนย์ขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม อนาคตศูนย์กลางโลจิสติกส์อีสานตอนบน
วันที่ 12 มิ.ย.66 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมในวันนี้ก็ได้เริ่มมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานกลาง (Main office) รวมถึงการสร้างความรับรู้และเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนและหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ของจังหวัดนครพนมแล้ว โดยโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนมเป็นโครงการที่มีความสำคัญที่จะมาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจในพื้นที่ เป็นยุทธศาสตร์ชาติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ของกระทรวงคมนาคม มีเป้าหมายที่จะทำให้จังหวัดนครพนมเป็น GATE WAY ประตูการค้าของประเทศไทย จากอีสานตอนบนสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ลาว เวียดนาม และจีน
ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมคัดแยกสินค้าและกระจายสินค้าไปตามพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดการขนส่งเที่ยวเปล่าทั้งสินค้าที่นำเข้าและสินค้าที่ส่งออกไปต่างประเทศ โดยรถบบรทุกต่าง ๆ จะมาเปลี่ยนหัวลาก มาทำกิจกรรมในการขนส่ง มาแยกสินค้าเพื่อกระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ และด้วยระยะทางที่จังหวัดนครพนมเชื่อมต่อไปยังต่างประเทศมีระยะทางที่ใกล้มาก ถึงเวียดนามเพียง 170 กิโลเมตร และอีกประมาณ 700 กิโลเมตร ก็ถึงเมืองหนานหนิง มณฑลกว่างซีของจีน ที่เป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่มาก ทำให้ที่ผ่านมามีมูลค่าการนำเข้าและส่งออกสูงมาก และเชื่อว่าในปี 2566 จะมีมูลค่าทะลุแสนล้านบาทอย่างแน่นอน และต่อไปในอนาคตคงจะมีมูลค่าเป็นหลักหลายแสนล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ผ่านเส้นทางนี้หลัก ๆ จะเป็นสินค้าทางการเกษตร และสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์
โดยโครงการนี้เป็นโครงการภายใต้แผนพระราชบัญญัติเอกชนร่วมลงทุน จะแล้วเสร็จในปี 2568 เป็นโครงการที่รัฐไม่ต้องแบกรับความเสี่ยง มีมูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท เป็นเอกชนลงทุนโครงสร้าง 300 กว่าล้านในการสร้างคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงเครื่องมือยกขนต่าง ๆ ที่เหลือรัฐช่วยลงทุนให้ในเรื่องของการเวนคืนที่ดินจำนวน 121 ไร่ และลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเอกชนได้สิทธิ์ร่วมลงทุนสัมปทาน 30 ปี มีหน้าที่บริหารจัดการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์และการบำรุงรักษาโครงการตลอดระยะเวลาร่วมลงทุน ซึ่งจะต้องลงทุนในส่วนนี้เพิ่มอีกประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท ทั้งยังต้องจ่ายผลตอบแทนคืนให้แก่รัฐประมาณ 300 ล้านบาทตลอดเวลาสัมปทาน
ซึ่งเราได้บริษัทเอกชนที่มีศักยภาพมาร่วมลงทุน มาช่วยในการบริหารจัดการ จึงเชื่อว่าศูนย์ตรงนี้จะเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าที่ทำให้มูลค้าทางเศรษฐกิจของจังหวัดนครพนมเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่-นครพนม ก็จะมายังศูนย์แห่งนี้ โดยปัจจุบันโครงการรถไฟมีการเวนคืนที่ดินและเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าปี 2570 จะแล้วเสร็จ ซึ่งจะสอดรับกับศูนย์แห่งนี้ที่แล้วเสร็จในปี 2568 ทำให้ต่อไปในอนาคตสินค้าระยะไกลจะผ่านรถไฟเป็นหลักและระยะใกล้ใช้รถบรรทุกกระจายสินค้าออกไป จึงทำให้เชื่อได้ว่าจังหวัดนครพนมจะเป็นจังหวัดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็นศูนย์กลางทางโลจิสติกส์อีสานตอนบนอย่างแน่นอน
เทพข่าวร้อน/เพลิงพระกาฬ รายงาน