เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2566 เวลา 09.30 น. นายวรวัฒน์ กำไพเราะ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 183 หมู่ที่ 6 ตำบลยุ้งทะลาย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย นางสาวสุกัญญา ชอุ้มแสง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 333 หมู่ที่ 1 ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ภรรยาที่ท้องได้ 8 เดือน ได้เข้ามาพบ พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ในกรณีที่เกิดเหตุถูกลูกหนี้ใช้อาวุธปืนยิ่งในรถ พร้อมทั้งถูกทำร้ายร่างกาย
ต่อมาเวลา 11.00 น. นายชัยวัฒน์ ทีวะรัตน์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 6 ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ได้เข้ามาติดต่อขอมอบตัว ต่อ พ.ต.ท. จักรพงษ์ วงศ์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน , ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน พร้อมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุโดยใช้อาวุธยิงใส่รถเจ้าหนี้ดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน จึงได้ นำตัวไปค้นหาอาวุธปืนที่ขว้างลงในลำคลอง เจ้าฟ้า ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร โดยมีเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพชรเกษมช่วยกัน ค้นหา อาวุธปืนดังกล่าวประมาณ 30 นาที ได้ พบว่า เป็นอาวุธปืนพกสั้น ชนิดลูกโม่ขนาด .38 ไม่มียี่ห้อและทะเบียน อาวุธปืน
จากการสอบสวนนายชัยวัฒน์ ในเบื้องต้น ว่า ตนเองกับเพื่อนที่มาด้วยกัน เป็นคนงานของนายสิริวัฒน์ บุญส่งแก้ว อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้รับเหมาและเป็นนายจ้างของพวกตนเอง โดยก่อนหน้าได้นั่งรับประทานนั่งดื่มสุรากันอยู่ภาย ในหมู่บ้าน โดยได้คุยเรื่องเงิน ค่าจ้างที่จะจ่าย ใครกลางเดือนนี้ ซึ่งนายชัยวัฒน์ ได้บอกพวกกับพวกตนว่า มีคนติดเงินของตนเอง หลายหมื่นบาท โดยไม่ได้นัดกันที่ห้างแห่งหนึ่ง จึงได้ชวนพวกตนขึ้นรถมาเพื่อทวงเงิน ด้วยกัน จากบุคคลดังกล่าว เมื่อมาถึงจุดนัดหมายนายชัยวัฒน์ ได้ทะเลาะกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ซึ่งตนไม่ทราบว่า กลุ่มบุคคลนั้นเป็นกลุ่มแก๊งเงินกู้ เมื่อคุยตกลงกันไม่รู้เรื่องกลุ่มแก๊งเงินกู้จึงได้ ขับรถหลบหนีไป โดยมีเพื่อนอีกคนหนึ่งเป็นคนขับ ได้ขับรถวิ่งไล่กัน ตนเองได้ยิงคืนขึ้นไปจำนวน 2 นัด แต่ไม่ทราบว่าถูกที่ใดบ้าง และได้ขับรถพุ่งชนกันที่ บริเวณสี่แยกไฟแดง บ้านพญาวัด บนถนนยันตรกิจโกศล ก่อนถึงสะพานทางลง บ้านพวงพยอม ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร และ ได้ทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุตนจึงได้หลบหนีพร้อมได้นำอาวุธปืนไปโยนทิ้ง หลังจากเหตุการณ์นั้นตนไม่ทราบ มารู้อีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นข่าวแล้ว จึงได้ติดต่อขอมอบตัวดังกล่าว
ต่อมา 14.00 น. นายวิเชียร ดวงไชย บ้านเลขที่ 93 บ้านนิคม หมู่ 15 ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง จ.น่าน ได้เข้ามามอบตัวพร้อมให้การรับสภาพว่า เป็นเจ้าของอาวุธปืนอาวุธปืนยาว ยี่ห้อ CZ ขนาด .22 พับฐาน ติดกล้องเล็งและเก็บเสียง ที่ตนเองได้นำไปซุกซ่อนไว้ภายในร้านขายสินค้าซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเนื่องจากกลัวกระทำความผิด ซึ่งอาวุธดังกล่าวตนซื้อมาจากชาวบ้านคนหนึ่งเพื่อใช้ล่าสัตว์ แต่ไม่ทราบว่าจะมีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้น ซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิงแต่อย่างใด เหตุที่ตนขึ้นรถมาในครั้งนี้เพื่อนได้ชวนนั่ กินเหล้าก่อนที่ตนจะออกไปล่าสัตว์ เห็นเพื่อนชวนก็เลยขึ้นติดรถมากับเขาด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำประวัติ ไว้เป็นหลักฐาน ทั้งสองคน เพื่อประกอบสำนวนในคดี
ส่วนนายสิริวัฒน์ บุญส่งแก้ว อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 2 บ้านน้ำเกี๋ยนเหนือ ตำบลน้ำเกี๋ยน อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เจ้าของรถ และเป็นผู้รับเหมา ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ตาข้างซ้ายปิด ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน ไม่สามารถให้ ปากคำได้
พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่น มีเครื่องกระสุนปืนและอาวุธปืน พกไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร กระทำโดยประมาณทำให้รถผู้อื่นได้รับความเสียหาย ไว้ก่อน ซึ่งตอนนี้ อยู่ระหว่างการสอบปากคำ ทุกคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้ง ลูกหนี้และเจ้าหนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรม กลุ่มบุคคลทั้งสอง เพื่อมาสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร. 0848084888