สตม.รวบ 2 หนุ่มอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร หลอกขอข้อมูลส่วนตัว แล้วใช้แอปโอนเงินออนไลน์โอนเงินของผู้เสียหายเข้าบัญชีที่เตรียมไว้ พบผู้เสียหายมากถึง 12 คน
วันนี้ วันจันทร์ที่ 23 ก.ย.62 เวลา 10.00 น.ณ ห้องโถงชั้นล่าง อาคาร 2 สตม.(สวนพลู) กทม. : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.ภ.7 ปฏิบัติราชการ สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.ภ.2 ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ. ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ปส.3 ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ. จ. นครศรีธรรมราช ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.ไพฑูรย์ กุลัตถ์นาม รอง ผบก.กฝ.บช.ตชด. ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร รอง ผบก.สกส.บช.ปส. ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.ทิวา โสภาเจริญ ผกก.ฝอ.ศทก.ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.รังสิมันต์ สง เคราะห์ธรรม ผกก.กลุ่มงานการมีส่วนร่วมของประชาชน ผอ.สยศ. ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.สมพงษ์ มั่นหมาย ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ทล.ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.ปรม พฤทธิกุล ผกก.ฝอ.บก.สส.ภ.4 ปฏิบัติราชการ สตม., พ.ต.อ.จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน ปฏิบัติราชการ สตม. และพ.ต.อ.ณรงค์ ชนะภัยกุล ผกก.ฝ่ายกิจการต่างประเทศ บก.อก.บช.ส. ปฏิบัติราชการ สตม.
ชุดจับกุม ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สตม. ชุดปฏิบัติการสืบสวนที่ 2 นำโดย พ.ต.ต.บรรจง ทัพภูมี สว.ฝอ.บก.น.1 ปรก.สตม., ร.ต.อ.สุนทร บัวสอน รอง สว.สส.บก.ตม.3, ร.ต.อ.ภูริศ คำหมื่น รอง สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม ปรก. สตม., ร.ต.ท.วิภู อิทธิกมลกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.โพธิ์แก้ว ปรก.สตม., ร.ต.ท.วัชรพงศ์ ศิรินทร์วงศ์ รอง สว.กก.2 บก.สส.สตม., ด.ต.สมคิด คำสวัสดิ์ ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.1 ปรก.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด กก.สส.ภ.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายวรวัช ตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ 189/2562 ลง 13 กันยายน 2562 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อ โกงประชาชน” และนายกานต์ บุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ 190/2562 ลง 13 กันยายน 2562 ฐานความผิด “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ กล่าวว่า เมื่อเดือน มิถุนายน ถึง สิงหาคม 2562 กลุ่มผู้เสียหายรวม 12 ราย ได้รับการติดต่อจากคนร้ายทางสื่อโซเชี่ยลแอพพลิเคชั่นเฟสบุ๊ค (Facebook) โดยใช้ชื่อว่า “Peerapong” โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารไทยพาณิชย์เสนอให้ผู้เสียหายทำการกู้ยืมเงิน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจะให้เปิดบัญชีของธนาคาร ไทยพาณิชย์และให้มีเงินคงเหลือในบัญชี (เงินนอนบัญชี)
จากนั้นจะหลอกลวงผู้เสียหายขอข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขบัตรประจำตัว วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัญชีธนาคาร รหัสโอทีพี (OTP) ฯลฯ โดยคนร้ายจะนำหมายเลขบัญชีธนาคารของผู้เสียหายไปลงในแอพพลิเคชั่นการโอนเงินผ่านทางโทรศัพท์มือถือของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB Easy App
หลังจากนั้นจะทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหายไปเข้าบัญชีธนาคารของคนร้ายที่เปิดรองรับไว้โดยวิธีโพสต์หลอกซื้อบัญชีธนาคารในโซเชี่ยลกลุ่มต่างๆ โดยอ้างว่าจะนำบัญชีไปใช้หมุนเวียนการเล่นพนันฟุตบอล และหวย ในราคาบัญชีละ 1,000 บาท เมื่อเงินเข้าบัญชีแล้วจะไปทำการถอนเงินสดออกโดยไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม หรือ Cardless ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหาย 12 ราย รวมความเสียหาย 313,650 บาท
จึงได้รวบรวมข้อมูลโดยส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวน ฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทาง การเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมทำการสืบสวนจนทราบตัวคนร้าย คือ นายวรวัชฯ ซึ่งทำหน้าที่ หลอกลวง/ซื้อบัญชีทางโซเชี่ยล/โอนเงินจากบัญชีผู้เสียหายโดยขอรหัส OTP ไปเข้าบัญชีที่หลอกลวงซื้อมา แล้วทำรายการถอนเงินโดยไม่ใช้บัตรเอทีเอ็ม หรือ Cardless และนายกานต์ฯ ซึ่งทำหน้าที่นำรหัส Cardless ตระเวนถอนเงินสดที่ได้จากการหลอกลวงจากตู้เอทีเอ็มในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ราย งานการสืบสวน ส่งมอบให้ พงส. สภ.หัวหิน และต่อมาศาลจังหวัดหัวหิน ได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ทั้งสองคน
ต่อมาในวันที่ 21 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ดำเนินคดี โดยผู้ต้องหารับว่าเคยถูกหลอกลวงโดยวิธีการนี้มาก่อนและเคยไปแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับคนร้ายดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ ผู้ต้องหาจึง ไปสอบถามวิธีการของคนร้ายจนเข้าใจ จากนั้นจึงนำวิธีการเดียวกันดังกล่าวไปหลอกลวงบุคคลอื่นเรื่อยมา จนมีผู้เสียหายหลายราย
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทย และสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และมีการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน