ข่าวใหม่อัพเดท » หนีไม่รอด !! หนุ่มขับรถตู้หลงรักสาวลาว รับสารภาพ อารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ มัดมือมัดปาก ยายวัย 78 ปี เจ้าของร้านชำ

หนีไม่รอด !! หนุ่มขับรถตู้หลงรักสาวลาว รับสารภาพ อารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ มัดมือมัดปาก ยายวัย 78 ปี เจ้าของร้านชำ

16 มิถุนายน 2023
0

น่าน – จับหนีไม่รอดหนุ่มขับรถตู้หลงรักสาวลาว รับสารภาพ อารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ มัดมือมัดปาก ยายวัย 78 ปี เจ้าของร้านชำ

เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ด่านตรวจถาวรน้ำอ่าง ถนนสายอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พื้นที่ สภ.ตรอน อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ผู้อานวยการจับกุมโดย พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.อ.อนุสรณ์ ดังก้อง ผกก.สภ.ตรอน, พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมือง น่าน, พ.ต.ท.ธาวิน สุขพูล รอง ผกก.(ป.) สภ.ตรอน, พ.ต.ต.สุวัฒน์ ศรีบุญเรือง สว.สส.สภ.เมือง น่าน, พ.ต.ท.สีหราช สุคันธมาลา สว.ส.ทล.6. กก.5 บก. ทล., ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ รัตนสิริทิพย์ชัย รอง สว.ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล, ร.ต.ต.ปราโมทย์ สอนกีม รอง สว.(ป.) ส.ทล.6, ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน, ร.ต.ต.สุพจน์ สุวรรณอินสาร รอง สว.(ป.)ปบ.หน้าที่ งานสืบสวน สภ.เมืองน่าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน ผู้ทำการจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายประกอบกุล ดวงพิกุล อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 50/59 ม.15 ต.ดู่ใต้ อ.เมืองน่าน จ.น่าน ซึ่งเป็น (ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดน่านที่ 2566 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2566) โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทาความผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป เป็นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บ”

     สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส. สภ .เมืองน่าน จ.น่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่า มีเหตุคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธมีด จี้ชิงทรัพย์(กระเป๋าเงิน)ที่ร้านป้าไล ขายของชำ ของนางวิไล กุลศรีไชย อายุ 78 ปี เจ้าของร้านชำดังกล่าวเลขที่ 1/3 บ้านท่าลี่ ถนนผากอง ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน โดยนายประกอบกุล หรือแบงค์ คนร้ายที้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจีผู้เสียหายและใช้สายไฟมัดตัวผู้เสียหาย แล้วชิงทรัพย์เงินสด จำนวน 1,000 บาท ภายในร้านฯของผู้เสียหาย จากนันได้ขับขี่รถ จยย.หลบหนีไป ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน จ.น่าน ขอให้เจ้าหน้าที่ต้ารวจติดตามทรัพย์สินและคนร้าย ที่ชิงทรัพย์ มาดำเนินคดีนั้น

     ต่อมาเจ้าหน้าที่ต้ารวจชุดจับกุม ได้เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจร ปิด จนทราบตัวผู้ก่อ เหตุคือ นายประกอบกุล หรือแบงค์ ดวงพิกุล อายุ 47 ปี จึงได้ท้าการรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ พ.ต.ท.สมเกียรติ รวมเงิน พงส.สภ.เมืองน่าน จ.น่าน ออกหมายจับดังกล่าวโดยได้หลบหนี ออกจากจังหวัดน่าน ไปลงรถที่จังหวัดแพร่ และต่อรถ ไปทางภาคอีสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานด่านตรวจต่างๆ และจับได้ เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.66 เวลาประมาณ 21.30 น. ที่ด่านตรวจถาวรน้ำอ่าง ถนนสายอุตรดิตถ์ พิษณุโลก พื้นที่ สภ.ตรอน อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ โดย ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ รัตนสิริทิพย์ชัย รอง สว.ส.ทล.6 กก.5 บก.ทล.พร้อมเจ้าหน้าประจำจุดตรวจได้ขึ้นไปตรวจคนรถโดยสารที่คนร้ายอาศัยหลบหนี จนกระทั่งสืบสวนติดตามพบนายประกอบกุล ดวงพิกุล อายุ 47 ปี (ผู้ต้องหา)ท่าทางมีพิรุธและลักษณะตรงตามหมายจับ ที่นั่งรวมมากับผู้โดยสาร จึงเข้าตรวจสอบและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้แจ้งให้นายประกอบกุล หรือแบงค์ผู้ต้องหาทราบว่า มีหมายจับของศาลจังหวัดน่าน โดยได้นำหมายจับแสดงอ่านต่อหน้าผู้ต้องหา และส่งมอบให้ผู้ต้องหาอ่านและตรวจสอบเอง และผู้ต้องหา รับว่าเป็นผู้ต้องหามีชื่อ/ที่อยู่/นามสกุล ตามหมายจับที่ได้แสดงและไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าจะต้องถูกควบคุมตัวตามหมายจับนี้ ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด หรือ พาทรัพย์นั้นไป เป็นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บ” ให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมกับทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา และได้แจ้งประสานพื้นที่ จังหวัดน่าน ให้มารับตัว

     โดยนำตัว ผู้ต้องหา มาถึงในเช้าวันนี้ และสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้น ให้การว่า ในช่วงนี้ขัดสนเรื่องเงินทอง และต้องการเดินทางไปหาแฟนสาวที่คบหาที่ประเทศลาว จึงได้ลงมือ จี้ชิงทรัพย์ ยายไรวัย 87 ปี ซึ่งเป็นอารมณ์ชั่ววูบ ตามผู้ต้องหากล่าว โดยผู้ต้องหา ได้ขอโทษต่อสังคม และได้สำนึกผิด และได้ขอโทษ ยายไร กับสิ่งที่ทำลงไป

     พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผบก.จ.น่าน กล่าวหลังลงพื้นที่ติดตามตัวนายแบงค์ ผู้ก่อเหตุว่า พฤติการของคนร้ายเบื่องต้น คนร้ายได้มาดูลาดเลาที่ร้านขายของชำโดยพฤติกรรมคนร้าย ได้เคยมาซื้อของที่ร้านเป็นประจำ และเห็น เจ้าของร้านใส่สร้อย และเก็บเงินจำนวนมากไว้ในลิ้นชัก จึงได้คิดลงมือทำโดยก่อนลงมือทำได้วนรถผ่านหน้าร้าน 2 รอบ 3 รอบ เพื่อให้แน่ใจ และแอบเข้าไปหลังร้าน และใช้มีดที่ เจ้าของร้านและบังคับให้ ขึ้นไปข้างบนบ้าน เพื่อหาของมีค่า แต่หาไม่เจอ จึงได้ลงมาข้างล่าง นำ เอาเงินในลิ้นชัก ออกไป ประมาณ 1,000 บาท และได้รีบหนีออกจากร้านไป เพราะว่า เจ้าของร้านเริ่มโวยวายเสียงดังร้องหาคนช่วย ซึ่งตอนนี้นายประกอบกุล หรือแบงค์ได้ถูกควบคุมตัว และ จะนำไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพเพื่อดำเนินคดีต่อไป


ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร. 0848084888

error: Content is protected !!