วันนี้ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 20.03 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระ ราชวังดุสิต ไปทอดพระเนตรการแสดงดนตรีคลาสสิกน้อมรำลึกในพระกรุณาคุณ วาระครบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายจุมพจน์ เชื้อสาย เลขาธิการทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พร้อมด้วยคณะกรรมการทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ในพระอุปถัมภ์ ฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรนิทรรศการน้อมรำลึกในพระกรุณาคุณสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และวีดิทัศน์ความเป็นมาของทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ในพระอุปถัมภ์ ฯ เสร็จแล้ว เสด็จเข้าหอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทอดพระเนตรการแสดงดนตรีคลาสสิกน้อมรำลึกพระกรุณาคุณ วาระครบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นการแสดงเปียโนของเซอร์สตีเวน ฮัฟ (Sir Stephen Hough) นักเปียโนระดับโลกชาวอังกฤษ แสดงร่วมกับวงรอยัลบางกอกซิมโฟนีออร์เคสตรา โดยมีนายแซนเดอร์ เตเปน (Mr. Sander Teepen) เป็นวาทยกร
การแสดงประกอบด้วย ๔ บทเพลง ได้แก่ โอเวอร์เจอร์ – รัสแลน แอนด์ ลุดมิลลา (Overture – Russlan and Ludmilla) ของมิคาอิล กลิงกา (Mikhail Glinka), บทเพลงเปียโน คอนแชร์โต หมายเลข ๒ (Piano Concerto No 2 in C minor, Op.18) ของเซียร์เกย์ รัคมานีนอฟ (Sergei Rachmaninof), บทเพลงเปเลอาส เอ เมลิซองเด (Pelléas et Mélisande, Op. 80) ของกาเบรียล โฟเร (Gabriel Fauré), และบทเพลง ๑๘๑๒ โอเวอร์เจอร์ (1812 Overture, Op. 49) ของปิออตร์ อิลิช ไชคอฟสกี (Piotr Ilyich Tchaikovsky) ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญช่อดอกไม้พระราชทานแก่ผู้แทนนักแสดงด้วย
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจหลากหลายแขนง ทรงรับโครงการในพระอุปถัมภ์มากกว่า ๗๐ โครงการ ทั้งด้านการศึกษา การสังคมสงเคราะห์ การแพทย์และการสาธารณสุข การต่างประเทศ การศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ฯลฯ กับทั้งยังมีพระปรีชาสามารถด้านการเขียน การกีฬา และการถ่ายภาพ รวมทั้งยังทรงสนพระทัยติดตามข่าวคราวเกี่ยวกับดนตรีคลาสสิก และเสด็จไปทอดพระเนตรการแสดงของนักดนตรีคลาสสิกที่มีชื่อเสียงอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งทรงพระดำริ
ที่จะพัฒนาวงการดนตรีคลาสสิกของไทยให้ก้าวหน้าขึ้น เมื่อพุทธศักราช ๒๕๔๓ ทรงพระเมตตาพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งกองทุนสำหรับนักดนตรีคลาสสิก ชื่อ “กองทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาดนตรีของเยาวชน” ต่อมาในพุทธศักราช ๒๕๔๗ จึงเปลี่ยนเป็น “ทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์” เพื่อให้ขอบเขตของการสนับสนุนกว้างขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกิจกรรมดนตรีคลาสสิกให้แพร่หลายในประเทศไทย และส่งเสริมศิลปินที่มีความสามารถให้ได้รับโอกาสในการพัฒนา ด้วยการเข้าร่วมกิจกรรมการแสดงดนตรีระดับนานาชาติ ตลอดจนการไปศึกษาต่อต่างประเทศ
พระปณิธานที่จะพัฒนาให้วงการดนตรีคลาสสิกในประเทศไทยทัดเทียมกับนานาประเทศ ได้นำไปสู่การก่อตั้ง “สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา” ในเวลาต่อมา ซึ่งนับเป็นก้าวกระโดดที่สำคัญของการยกระดับการศึกษาด้านดนตรีสากลในประเทศไทย ในวาระครบ ๑๐๐ ปี วันประสูติ องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ประกาศถวายพระเกียรติยกย่องให้สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) จากพระกรณียกิจนานัปการที่ทรงปฏิบัติ ด้วยพระปณิธานแนวแน่ที่จะสร้างประโยชน์เพื่อประชาชนชาวไทย และสังคมโลก