“บิ๊กโจ๊ก” ลุยล้างมาเฟียต่างชาติเมืองพัทยา แถลงปิดจ๊อบ รวบหัวโจกแก๊ง Out laws ระดมสรรพกำลังตำรวจหลายหน่วย ปฏิบัติการค้นบ้านพักสมาชิกแก๊งต่างชาติ ที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน ประกาศลั่นขึ้น “บัญชีดำ” พร้อมเตรียม “เนร เทศ” ล้างเครือข่ายมาเฟียต่างชาติ ให้พ้นไปจากผืนแผ่นดินไทย
สืบเนื่องจาก คดีฆาตกรรมอำพราง “โอลาฟหั่นศพ” สมาชิก Outlaws พัทยา ร่วมกับพวก สังหารโหดนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเยอรมัน วัย 62 ปี ถูกหั่นแยก 13 ชิ้น ยัดตู้แช่แข็ง จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การนำของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สามารถคลี่คลายคดีในเวลาเพียงไม่กี่วัน บุกจับกุมกลุ่มผู้ที่ลงมือได้ยกแก๊ง
โดยเฉพาะ นายโอลาฟ ตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นหนึ่งในมาเฟียชาวต่างชาติของเมืองพัทยา แผ่ขยายอิทธิพลเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มชาวเยอรมันที่ทำธุรกิจสีเทา เคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ ซึ่งถูกชุดทำงานของ “บิ๊กโจ๊ก” บุกรวบตัวได้ ภายในคลับแห่งหนึ่งในพื้นที่ สน.ประเวศ อันเป็นสถานที่ตั้งของแก๊ง “Outlaws” สาขากรุงเทพฯ
ล่าสุด ปฏิบัติการตามเด็ดปีกแก๊ง “Outlaws” ระดับหัวโจก ของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถปิดจ๊อบลงอย่างสวยงาม ด้วยการบุกจับ หัวหน้าแก๊ง “Outlaws” ได้คาบ้านพักกลางเมืองพัทยา โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายัง สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2, กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยวชลบุรี, สภ.เมืองพัทยา, สภ.หนองปรือ, สภ.นาจอมเทียน และตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ สภ.เมืองพัทยา ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายโทมัส จินเนอร์ ชาวออสเตรเลีย หัวหน้ากลุ่ม “Outlaws” พัทยา ได้ที่บ้านเลขที่ 55/57 หมู่ที่ 17 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมตรวจยึด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ HARLEY DAVIDSON และอุปกรณ์อื่น ๆ ซึ่งมีความเกี่ยวโยงกับ “Outlaws” เบื้องต้น มิสเตอร์ โทมัส ยอมรับว่าเป็นหัวหน้าแก็งจริง แต่ได้ถอนตัวออกมาแล้ว นับแต่เกิดเหตุฆาตกรรม มีรายงานด้วยว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้าน พบว่านายโทมัส กำลังเตรียมเก็บข้าวของย้ายบ้านหนี ตรวจสอบข้อมูลพบว่านายโทมัส มีหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ของ สภ.เมืองพัทยา
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจค้นบ้านเลขที่ 21/204 หมู่บ้านโชคชัยการ์เด้นโฮม 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง ซึ่งเป็นบ้านพักของ Mr.Danny Rohde ชาวเยอรมนี ตรวจพบสารเสพติดภายในร่างกาย และได้ตรวจยึด รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น Z900 ทะเบียน 1 กญ 6335 กาฬสินธุ์ เพื่อนำไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ ทาง ตม.ชลบุรี และกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 ได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 จำนวน 2 ราย ได้แก่ Mr.Daniel Thomas Toth ชาวสหรัฐฯ และ Mr.Theodor Matis ชาวสวิสฯ เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์อีก 4 คัน เพื่อมาตรวจสอบเพิ่มเติม
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า จากกรณี คดีฆ่าหั่นศพนักธุรกิจชาวเยอรมัน พบว่ามีการรวมกลุ่มกันของกลุ่มนอกกฎหมาย ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหลายประเภท เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภาค 2, ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี และตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันตรวจสอบกลุ่ม “Out laws และกลุ่มอื่นๆ ที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิดในราชอาณาจักรไทย
รอง ผบ.ตร. เปิดเผยต่ออีกว่า สำหรับกลุ่ม “Outlaws” ได้มีการจับกุมหัวหน้าแก๊ง โดยมีหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนของ สภ.เมืองพัทยา รวมทั้งสมาชิกที่มีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเพิกถอนวีซ่าของสมาชิก ที่พบว่ามีความสุ่มเสี่ยงที่จะกระทำผิด เตรียมพร้อมผลักดันออกนอกประเทศ และขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเดินทางเข้าประเทศไทย นับจากนี้จะได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจตราและสอดส่องกลุ่มบุคคลเหล่านี้ หากพบการกระทำผิดอื่นใด จะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และหากประชาชนพบการกระทำผิดของกลุ่มคนเหล่านี้ สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือตำรวจท่องเที่ยว 1155 ตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพ/ข่าว
นายโยธิน พรมแตง
หัวหน้าทีมข่าวอาชญากรรม
สำนักข่าวความมั่นคง