นครพนม – ชาวบ้านเดือดร้อนโร่ร้องสื่อ เอกชนปิดทางเข้าที่ทำกิน อ้างเปลี่ยนใจหลังบิดามอบที่ดินให้เป็นทางสาธารณะนานเกือบยี่สิบปี
เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2566 นายชาญชัย ทองสอย ชาวบ้านโพนแพง ต.โพนแพง ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมพวกเกือบยี่สิบคน เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าว โดยระบุว่ามีคนมาปิดทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรไปทำไร่ทำนาจนไม่สามารถใช้สัญจรได้อีกต่อไป โดยมีการใช้เครื่องจักรขุดพื้นผิวจราจรบริเวณปากทางเข้าเป็นหลุมขนาดใหญ่ และเมื่อผ่านเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็มีการกั้นเป็นรั้วลวดหนามขวางทางไว้จนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ โดยนายชาญชัย กล่าวต่อว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางเดือนพฤษภาคม ปี 2566 ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านและนายก อบต.โพนแพงทันที แต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอธาตุพนม แต่เวลาล่วงเลยมาเกือบสองเดือนแล้วยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ถนนก็ยังคงถูกปิดอยู่เหมือนเดิม
นางลำดวน ทองสอย อายุ 80 ปี ผู้ได้รับความเดือดจากการที่ถูกปิดทางสาธารณะกล่าวว่าตนมีที่นาอยู่ด้านในประมาณ 4 ไร่และทำประโยชน์ต่อเนื่องมาตลอด แต่ปีนี้ยังไม่ได้ลงมือทำนาเนื่องจากทางไปนาที่เคยใช้เป็นประจำถูกปิดจนไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ ทำให้เดือดร้อนมากเพราะหากไม่ได้ทำนาปีนี้ก็คงไม่มีข้าวกินต้องเสียเงินซื้ออย่างแน่นอน จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ด้วย
ด้านนายบุญเลิศ คำหาญ รองนายก อบต.โพนแพง เปิดเผยว่าทางสาธารณะดังกล่าวแต่เดิมเป็นที่ดินของนายสีแพง อินาลา ได้มอบให้ชาวบ้านใช้เป็นทางสาธารณะ ต่อมาทางอบต.โพนแพง ได้ใช้งบประมาณ เข้าปรับปรุงเป็นถนนลูกรังระยะทางประมาณ 400-500 เมตรเพื่อให้ชาวบ้านที่มีที่ทำกินอยู่ด้านในสามารถใช้สัญจรไปมาได้สะดวก แต่เมื่อนายสีแพง เสียชีวิตลง บรรดาลูกๆ ของนายสีแพง ที่รับมรดกจากนายสีแพง กลับเปลี่ยนใจไม่ยอมยกที่ดินบริเวณดังกล่าวให้อีก โดยได้ขอรังวัดสอบเขตขอออกโฉนดที่ดินในบริเวณนั้นซึ่งคาดว่ามีนับร้อยไร่รวมไปถึงที่ดินที่เป็นทางสาธารณะไปแล้วด้วย ซึ่งตอนทำการรังวัดทางอบต.โพนแพง ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกระวังและชี้แนวเขตทางสาธารณะไว้แล้วด้วย แต่ทางเจ้าของที่ก็ยังดึงดันจะเอาคืนให้ได้
ส่วนนายสนิท สุริยนต์ รองนายก อบต.โพนแพง กล่าวว่า ทางอบต.โพนแพงได้ยืนยันไปแล้วว่าทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณะแล้วเนื่องจากปรากฏอยู่ในระวางที่ดินที่ทางสำนักงานที่ดินนำมาแสดงขณะออกมารังวัดสอบเขตเพื่อออกโฉนดโดยเหตุการณ์ดังกล่าวทางอบต.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เชิญเจ้าของที่ดินมาพูดคุยแล้วแต่เขายังยืนยันที่จะขอที่ดินคืน ซึ่งทางอบต. โพนแพงเห็นว่าต่างก็เป็นคนในชุมชน เบื้องต้นจึงยังไม่อยากบังคับใช้กฎหมายก่อน เพียงแต่เชิญมาเจรจาพูดคุยแต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ จึงได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ที่นำรั้วลวดหนามมาปิดทางสาธารณะให้รื้อถอนออกไป ซึ่งเพิ่งส่งหนังสือไปได้ประมาณ สองอาทิตย์ จึงยังอยู่ระหว่างการรอให้เขาดำเนินการอยู่ ส่วนแนวทางการแก้ไขอีกทางหนึ่ง ก็อาจจะทำทางเบี่ยงให้ชาวบ้านใช้สัญจรชั่วคราวไปก่อนระหว่างที่รอให้เขามาเปิดทางให้
เทพข่าวร้อน
เพลิงพระกาฬ
สำนักข่าวความมั่นคง จังหวัดนครพนม รายงาน