ข่าวใหม่อัพเดท » นักธุรกิจชื่อดังร้องสื่อเตือนภัยแฉขบวนการทนายความแก๊งต้มตุ๋นสูญเงินกว่า 80 ล้าน

นักธุรกิจชื่อดังร้องสื่อเตือนภัยแฉขบวนการทนายความแก๊งต้มตุ๋นสูญเงินกว่า 80 ล้าน

29 กันยายน 2019
0

วันนี้​ วัน​ศุกร์​ที่ 27 ก.ย.62 เวลา 14.00 น.: นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด ได้เดินทางเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนที่ศูนย์ปฏิบัติการสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ถนนศรีอยุธยา แขวงและเขตราชเทวี กทม. แฉขบวนกลุ่มมิจฉาชีพ หรือแก๊งต้มตุ๋น เพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนภัย อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้

นายชาญวิทย์ฯ ได้เปิดเผยว่า กลุ่มมิจฉาชีพ หรือ แก๊ง ต้มตุ๋นเหล่านี้ มีอดีตนายตำรวจระดับ​ พล.ต.อ.และ​พ.ต.อ.มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการซื้อขายที่ดินใน เกาะนาคาน้อย อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยเมื่อประมาณปี​ 2559 ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปดำเนินการซื้อที่ดินที่ เกาะนาคาน้อย เป็นใบ ภบท.5 เมื่อปี 2559 ต่อมาได้มีปลัด อบต.ท่านหนึ่ง แนะนำให้รู้จักกับ นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ หรือ นายกร ซึ่งเป็นทนายความโดยบอกว่ามีทีมงานที่เป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมื่องสามรถออกโฉนดที่ดินบนเกาะนาคาน้อยได้ และได้พยายามสร้างเรื่องราวต่างๆให้สมจริงว่าสามารถออกโฉนดที่ดินได้จริงๆ

ต่อมานายณรงค์ฤทธิ์ฯ ได้พาผมไปพบกับอดีต พล.ต.อ.ท่านหนึ่งและมี พ.ต.อ.อีกคนที่ยังรับราชการอยู่ในปัจจุบัน ทั้งหมดก็พาผมไปพบกับท่าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.โดยบอกว่าเป็นทีมงาน เพื่อจะทำเรื่องการ ออกโฉนดที่ดิน บนเกาะนาคาน้อย และยังมีการถ่ายภาพร่วมกันเพื่อให้เกิดความเชื่อถือ (ผมมารู้ที่หลังว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ฯ ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย)

ตลอดระยะเวลา 2-3 ปี ที่ผ่านมา นายณรงค์ฤทธิ์ฯ เรียกเงินหลายครั้งรวม 80 ล้านบาท อ้างเป็นค่าวิ่งเต้นผู้ใหญ่ออกโฉนด และบอกว่า เจ้าพนักงานที่ดิน จะมาทำการ รังวัด เพื่อทำการออกโฉนดให้ ช่วยนำ ผู้สื่อข่าว ลงมาเป็น สักขีพยานด้วย ซึ่งผมก็ได้ดำเนินการตามที่ นายณรงค์ฤทธิ์ฯ แนะนำ โดยมี ผู้สื่อข่าว จาก กรุงเทพฯ ประมาณ 3-4 ฉบับ ลงพื้นที่ไปด้วย แต่แล้ว ก็ไม่มีการ รังวัด แต่อย่างใด หลังจากนั้น นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ได้นำ หนังสือจาก สำนักงานที่ดิน อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลง วันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 มาแสดงว่า โดยมีเนื้อหาว่า เจ้าหน้าที่ ที่ดิน ขอเลื่อน การรังวัด ซึ่งตนเองก็น้อมรับโดยที่ไม่คิดอะไรเพราะไว้ใจ (มาทราบที่หลังเป็นเอกสารปลอม)

จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนธันวาคม​ 2561 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้ดำเนินคดีกับผมในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าเกาะนาคาน้อย ผมจึงได้ทราบความจริงว่าถูกนายณรงค์ฤทธิ์ฯ กับพวกหลอกลวง ต้มตุ๋น ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ฯ ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ ต้มตุ๋นผม ที่บอกว่าสามารถออกโฉนดที่ดินได้ทุกคน

นายชาญวิทย์ฯ ยังได้กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผมจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ที่ดินระดับสูงของจังหวัดภูเก็ต ด้วยตนเอง ว่าจะมีการ รังวัด ให้เมื่อใด แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน เจ้าหน้าที่ ที่ดินระดับสูงของ จังหวัดภูเก็ต ได้กล่าวกับตนว่า ที่ดินบนเกาะนาคาน้อย ที่ผมเป็น ผู้ซื้อและให้ นายณรงค์ฤทธิ์ฯ มาทำเรื่องขอออก โฉนดนั้น ไม่เคยได้รับเรื่องการร้องขอ ออกโฉนด แต่อย่างใด ซึ่งผมเองจึงได้ทราบทันทีว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่จ่ายเงินให้ นายณรงค์ฤทธิ์ฯ ประมาณ 80 กว่า ล้านบาท ถูกหลอก ตลอดมา

จึงเป็นเหตุให้ต้องมา ร้องสื่อมวลชนเพื่อเป็นอุทาหรณ์ เตือนภัย ถึงพฤติกรรม ของนายณรงค์ฤทธิ์ฯ และเชื่อว่าน่าจะมีอดีตนายตำรวจร่วมขบวนการด้วย หลังจากที่ผมทราบว่าถูกนายณรงค์ฤทธิ์ฯ​ หลอก จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนที่ สภ.รัตนาธิเบศร์เมื่อวันที่ 19 เม.ย.62 ที่ผ่านมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 13 ก.ย.62 ศาลแขวงนนทบุรี ได้ออกหมายจับนายณรงค์ฤทธิ์ฯ​ ในข้อหาฉ้อโกงแล้ว

ด้านนายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความประจำสมาคมฯ​ เปิดเผยว่าเรื่องดังกล่าวได้เรียนไปยังทนายพนิต บุญชะม้อยประธาน กรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์แล้วถึงเรื่องจริยธรรม และจรรยาบรรณของทนายณรงค์ฤทธิ์ฯ ท่านบอกว่ากรณีนี้เนื่องจากว่า ทนายความ ได้หลอกลวง เอาเงินของประชาชนไป โดยแจ้งว่าจะไปดำเนินการใดๆ แต่ เมื่อตรวจสอบแล้ว ไม่พบว่ามีการดำเนินการใดๆตามที่กล่าวอ้างทั้งสิ้น

ผู้เสียหายสามารถมาร้องเรียนที่สภาทนายความได้ในส่วนแผนก มรรยาททนายความ ทางสภาทนายความ สามารถตั้ง คณะกรรมการ ขึ้นมาตรวจสอบวินิจฉัย รับเป็นคดีมรรยาททนายความได้ โดยกรณีนี้ สามารถลงโทษได้สูงสุดถึง ลบชื่อ ออกจากการเป็นทนายความ การดำเนินคดีของทนายความ ในส่วนของสภาทนายความไม่จำเป็นต้อง รอผลสรุป ในคดีอาญาแต่อย่างใด

สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!