ข่าวใหม่อัพเดท » กก.ดส.รวบ เกรียงไกร หรือแบงค์ฯ พร้อมยาบ้า 4,115 เม็ด เคตามีน 6.7 กิโลกรัม ย่านบางแค

กก.ดส.รวบ เกรียงไกร หรือแบงค์ฯ พร้อมยาบ้า 4,115 เม็ด เคตามีน 6.7 กิโลกรัม ย่านบางแค

24 สิงหาคม 2023
0

กก.ดส.รวบ เกรียงไกร หรือแบงค์ฯ พร้อมยาบ้า 4,115 เม็ด เคตามีน 6.7 กิโลกรัม ย่านบางแค

ตามนโยบายของรัฐบาล ให้เจ้าหน้าที่ของภาครัฐปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญา กรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมในปัจจุบัน ได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ. ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต. สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น./ผอ.ศอปส.บช.น. ได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญา กรรม การรักษาความสงบเรียบร้อยฯ และได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กวาดล้างเร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด อย่างต่อเนื่อง

วันที่ 18 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 16.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.,พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล,พ.ต.ท.วรปรัชญ วุฑฒิรักษ์,พ.ต.ท.มโรดม์ ขวัญเมือง รอง ผกก.กก.ดส. ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด นำโดย พ.ต.ท.หญิง พรรัมภา พัฒนาวาท สว.กก.ดส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กก.ดส. เข้าทำการจับกุมตัว นายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ อายุ 31 ปี (ผู้ต้องหา)

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย และ จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีนหรือคีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยผิดกฎหมาย” พร้อมด้วยของกลาง

  1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 115 เม็ด พบอยู่ในกระเป๋าสะพายสีดำด้านข้างแล้วแขวนอยู่ในห้องภายในบ้านที่เกิดเหตุ
  2. วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีนหรือคีตามีน) น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 1.19 กรัม (ซองเปล่าหนัก 0.3 กรัม) พบอยู่ในกล่องแสตนเลสสีชมพู อยู่ในห้องนอนภายในบ้านที่เกิดเหตุ
  3. วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีนหรือคีตามีน) น้ำหนักประมาณ 6.7 กิโลกรัม
  4. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 4,000 เม็ด ของกลางรายการที่ 3 และ 4 พบอยู่ในกล่องกล่องโฟมสีขาว ภายในโรงจอดรถยนต์ข้างบ้านที่เกิดเหตุ
  5. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4 กฮ 116 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน พบจอดบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ
  6. กล่องลาล่ามูฟ สีส้ม จำนวน 1 ใบ พบวางอยู่ที่พื้นภายในบ้านที่เกิดเหตุ
  7. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 7 พลัส สีแดง IMEI 355346082721190 พร้อมซิมโทรศัพท์หมายเลข 088-6575029 เครือข่าย ทรูมูฟฯ จำนวน 1 เครื่อง
  8. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีดำ IMEI 863850050330103 พร้อมซิมโทรศัพท์หมายเลข 093-9764737 เครือข่าย ทรูมูฟฯ จำนวน 1 เครื่อง ของกลางรายการที่ 7 และ 8 พบวางอยู่บริเวณชั้นตั้งโทรทัศน์ ภายในห้องนอนบ้านที่เกิดเหตุ

สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 115 ซอยบางแค 9 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยในการจับกุม ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ(ขอปิดนาม) ว่าผู้ถูกจับได้ลับลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับประชาชนทั่วไป จึงได้ทำการสืบสวนประกอบกับข้อมูลจากสายลับจนทราบข้อมูล

ต่อมา วันที่ 18 ส.ค.2566 เวลา 16.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี ที่ 428/2566 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2566 เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 115 ซอยบางแค 9 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงพบนายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ ที่บริเวณหน้าบ้าน จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงหมายค้นของศาลอาญาธนบุรีดังกล่าวเข้าสอบถามนายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ แจ้งว่าบ้านเลขที่ 115 ตามหมายค้นเป็นบ้านของผู้ถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจค้นโดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้นายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้วและยินยอมให้ทำการตรวจค้น โดยสมัครใจเป็นผู้นำการตรวจค้น

ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 อยู่ในห้องภายในบ้านที่เกิดเหตุ, พบวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 วางอยู่บริเวณชั้นตั้งโทรทัศน์ในห้องนอนบ้านที่เกิดเหตุ, พบวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ภายในโรงจอดรถยนต์ข้างบ้านที่เกิดเหตุ, พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4 กฮ 116 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน จอดบริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุ, พบกล่องลาล่ามูฟ สีส้ม วางอยู่ที่พื้นภายในบ้านที่เกิดเหตุ,พบโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 7 พลัส สีแดง และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีดำ วางอยู่บริเวณชั้นตั้งโทรทัศน์ในห้องนอนของผู้ถูกจับ จึงได้สอบถามนายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ รับว่ายาบ้าและยาเคตามีนที่พาตำรวจไปค้นพบ และที่ตำรวจค้นพบเองเป็นของผู้ถูกจับจริง

เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งว่าเขาต้องถูกจับ แล้วแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้นายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ ทราบ จากการสอบถามนายเกรียงไกร หรือแบงค์ฯ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนั้นนำตัวผู้ถูกจับกุมมาทำบันจับกุมที่ กก.ดส. แล้วนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการจับกุมดังกล่าวข้างต้น เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้ทำการยึดของกลางที่เป็นยาเสพติด ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดพ.ศ.2564 ดังนี้

  1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 4,115 เม็ด
  2. วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (เคตามีนหรือคีตามีน) น้ำหนักรวมถุง ประมาณ 6.7 กิโลกรัม
  3. รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110 ไอ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4 กฮ 116 กรุงเทพฯ จำนวน 1 คัน
  4. กล่องลาล่ามูฟ สีส้ม จำนวน 1 ใบ
  5. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 7 พลัส สีแดง IMEI 355346082721190 จำนวน 1 เครื่อง
  6. โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Redmi สีดำ IMEI 863850050330103 จำนวน 1 เครื่อง

จากคดีดังกล่าว ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี ได้ดำเนินการสืบสวน รวบรวมข้อมูล ผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้เน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า จะมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรม และปราบปรามยาเสพติด ให้กับพี่น้องประชาชน และเมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งทำการ สืบสวน ติดตามจับกุม คนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!