มีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามในคำสั่งแต่งตั้ง พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯคนใหม่
พล.อ.วัลลภ กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แต่ได้รับแต่งตั้งให้ไปทำหน้าที่ “หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้” แทน พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 โดยเริ่มงานตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2562 (หลังเกษียณอายุราชการ) เป็นต้นไป
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาตั้งแต่ปี 2560 รวมเวลา 2 ปี โดยย้ายข้ามห้วยมาจากผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
พล.อ.วัลลภ เกิดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2501 เป็นชาวจังหวัดลพบุรี จบโรงเรียนเตรียม ทหารรุ่น 18 (ตท.18) และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น 29 (จปร.29) ผ่านการศึกษาหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 69 และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ รุ่นที่ 54
พล.อ.วัลลภ เคยเป็นทหารเหล่าปืนใหญ่ เคยปฏิบัติราชการสนามในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยุทธการช่องบก และช่องโอบก ทั้งยังเคยปฏิบัติงานเป็นผู้ประสานภารกิจในภารกิจรักษาสันติภาพ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในปี 2534 ด้วย เคยเป็นอาจารย์ในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก รองเจ้ากรมและเจ้ากรมยุทธการทหาร และผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม ก่อนข้ามห้วยเป็นเลขาธิการ สมช.กระทั่งเกษียณอายุราชการ
พล.อ.วัลลภ เคยปฏิบัติงานที่เป็นเกียรติประวัติ เช่น สมัยรักษาราชการผู้ช่วยทูตทหาร ไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างเดือน ต.ค.2544 ถึง ก.ย.2547 นั้น ปรากฏว่าเมื่อเดือน ม.ค.2546 เกิดวิกฤติการณ์ที่มีการปล่อยข่าวลือ จนทำให้ชาวกัมพูชาไม่พอใจ มีการประท้วงจลาจลทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายคนไทย บุกเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ ทำให้ข้าราชการของสถานทูตและคนไทยต้องหลบหนีจากเหตุจลาจล พล.อ.วัลลภ ได้ช่วยเหลือข้าราชการสถานทูตบางส่วนไปอยู่เซฟเฮาส์ และวางแผนอพยพคนไทยกลับประเทศ โดยประสานกับกองทัพไทยในการเตรียมกำลังพลและอากาศยานไปรับคนไทยที่สนามบินโปเชนตง รวมกว่า 700 คน กลับสู่มาตุภูมิด้วยความปลอดภัย
นอกจากนั้นยังมีผลงานเกี่ยวกับความร่วมมือด้านความมั่นคงระห่วางประเทศ กรณีเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินสายการบินลาวแอร์ไลน์ เที่ยวบิน QV301 เกิดอุบัติเหตุตกกลางแม่น้ำโขง ฝั่งเมืองโพนทอง ตรงข้ามเมืองปากเซ แขวงจำปาสัก เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2556 ขณะนั้น พล.อ.วัลลภ ดำรงตำแหน่งรองเจ้ากรมยุทธการทหาร ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าชุดประสานงานของไท่ย เพื่อให้ความช่วยเหลือ สปป.ลาว ในการร่วมค้นหาและกู้ซากเครื่องบินลาว เหตุการณ์ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 44 คน โดยกองทัพอากาศสามารถนำร่างผู้เสียชีวิตชาวไทย 3 รายกลับประเทศเพื่อทำพิธีทางศาสนาได้อย่างเรียบบรอ้ย
ช่วงที่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหาร ซึ่งสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ อยู่ในภาวะเปราะบาง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศไทย พล.อ.วัลลภ มีส่วนสำคัญในฐานะผู้อำนวยการฝึกร่วมกับฝ่ายสหรัฐอเมริกา ในการฝึกปฏิบัติการร่วมผสมทางทหารระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐ ครั้งที่ 34 ภายใต้ชื่อ “คอบร้าโกลด์ 2015” ซึ่งเป็นการฝึกร่วมผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และจัดขึ้นทุกปีในประเทศไทย โดยปีที่จัดคอบร้าโกลด์ ครั้งที่ 34 ในระหว่างที่ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐค่อนข้างเปราะบางนี้ ปรากฏว่ามีประเทศเข้าร่วมถึง 24 ประเทศ และผลการฝึกก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย
ขณะเดียวกัน พล.อ.วัลลภ ยังเคยทำหน้าที่ประธานร่วมการประชุมในกรอบทวิภาคีกับอีกหลายประเทศ เช่น การประชุมคณะกรรมการการฝึกร่วมผสมไทย-มาเลเซีย ซึ่งมีความรู้ความชำนาญและความคุ้นเคยกับมาเลเซียไม่น้อย
สำหรับ คติประจำใจของ พล.อ.วัลล คือ “มุ่งมั่น ตั้งใจ เสียสละ”
พล.อ.วัลลภ นับเป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ คนที่ 3 ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก้าวเข้ามาเป็นผู้นำประเทศจากการเข้าควบคุมอำนาจการปกครองเมื่อปี 2557 โดยหัวหน้าคณะพูดคุยฯคนแรก คือ พล.อ.อักษรา เกิดผล หรือ “บิ๊กโบ้” ทำหน้าที่มาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558 จนถึงปลายปี 2561 จึงมีการเปลี่ยนตัวเป็น พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาธารัชต์ หรือ “บิ๊กเมา” อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 แต่ก็ทำงานได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกเปลี่ยนตัวอีกรอบ โดย พล.อ.อุดมชัย ขยับไปเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. และกำลังขับเคลื่อนจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญของวุฒิสภา ทำงานเกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป ขณะที่หัวหน้าพูดคุยฯก็ถูกเปลี่ยนอีกครั้งเป็น พล.อ.วัลลภ การเปลี่ยนตัวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากเปลี่ยนรัฐบาลจาก คสช.เป็นรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ สมัย 2 ซึ่งเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง และมีสภาจากการเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน
เป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่ริเริ่มกระบวนการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐแบบเปิดเผย บนโต๊ะ ไม่ใช่คุยกับแบบปิดลับ หรือคุยกันใต้โต๊ะแบบเดิม ปรากฏว่าหัวหน้าคณะพูดคุยฯฝ่ายรัฐบาลไทยเป็นทหารหรื่ออดีตทหารมาตลอด เริ่มจาก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร หรือ “บิ๊กแมว” อดีตเลขาธิการ สมช. ทำหน้าที่เมื่อปี 2555 ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยขณะนั้นใช้ชื่อว่า กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ ตามด้วย พล.อ.อักษรา ปี 2558 พล.อ.อุดมชัย ปี 2561 และ พล.อ.วัลลภ ปี 2562
ขอบคุณ : ประวัติและภาพ พล.อ.วัลลภ จากเอกสารประกอบการรับรางวัลเกียรติยศจักรดาว (ศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร) ประจำปี 2561 สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ
ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา