(วันที่ 3 ต.ค. 62) พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษก กอ.รมน. ได้เปิดเผยว่า การประชุม ครม. ครั้งที่ 11/2562 เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 62 มี มติครม.ที่สำคัญ เห็นชอบแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษควันฝุ่นละออง” โดยมีมาตรการที่สำคัญ คือ
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ให้จัดตั้งศูนย์ดำเนินการการแก้ไขปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็กในระดับจังหวัดโดยใช้กลไกการจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command)
- การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง ( แหล่งกำเนิด ) ใช้กลไกของหน่วยงานที่มีหน้าที่ ตามกฎหมาย ออกระเบียบ/แนวทาง/ข้อบังคับในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง
- การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ ใช้กลไกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เป็นกลไกหลักร่วมกับ ทส.
จากสถานการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มีความห่วงใยในการใช้ชีวิตของประชาชน จึงได้สั่งการให้ กอ.รมน. ประสานงานและบูรณาการร่วมกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย, กทม., กระทรวงสาธารณะสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแก้ไขปัญหาตามมาตรการในขั้นต่างๆ ปัจจุบันกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) ได้ตรวจพบว่าสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีค่ามาตรฐานเกือบทุกพื้นที่ในกทม. และปริมณฑล ส่งผลต่อสุขภาพของพี่น้องประชา ชน
ในการนี้ กอ.รมน.โดยศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 เป็นหน่วยรับผิดชอบในการอำนวยการประสานงานและขับเคลื่อนบูรณาการตามแผนงาน พิทักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรฯ (กรมควบคุมมล พิษ) ผ่าน กอ.รมน.จว. ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ (กทม., นนทบุรี, นครปฐม, ปทุมธานี, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ พร้อมติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง รณรงค์การลดการเผาขยะในที่โล่งแจ้ง, บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ตลอดจนขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม ให้ควบคุมและลดการระบายฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเสี่ยง ฝุ่นละออง PM 2.5 ที่อาจเกิดเพิ่มขึ้นเกินค่ามาตรฐานได้