ตำรวจภูธร ภาค 5 แถลงการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาบ้า 6 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 30 กิโลกรัม อำพรางมากับรถขนผัก เผยเคยทำมาแล้วถึง 4 ครั้ง เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์สินเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิดทุกระดับ ทำลายเครือข่ายยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล
วันนี้ (2 ต.ค. 66 ) ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี กฤตธาพล ยี่สาคร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5, พลตรี ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และ นายอภิกิต ฉ. โรจน์ประเสริฐ ผอ.ป.ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 6 ล้านเม็ด และ ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม อำพรางมาในรถขนผัก หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสถานีตำรวจภูธรช้างเผือกทำการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ และสืบทราบมาว่า นายบอล หรือ นายบุญก่อ ฯ ผู้ต้องหาในคดีนี้ เคยใช้รถยนต์ลักลอบขนยาเสพติดอำพรางมากับรถขนพืชผักทางการเกษตร จากพื้นที่ ตำบลทุ่งข้าวพวง อำเภอเชียงดาว ไปส่งปลายทางให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดังนั้น สภ.ช้างเผือก จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วงที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายตำรวจ ฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และสำนักงาน ป.ป.ส. สืบสวนจับกุม เพื่อวางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าว
กระทั่งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมได้พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา เลขทะเบียน ยน 4824 เชียงใหม่ บรรทุกกะหล่ำปลีมาเต็มกระบะท้าย ขับมาจากเส้นทางอำเภอเชียงดาว มุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองเชียงใหม่ จึงได้ทำการสกัดจับผู้ต้องหาบริเวณถนนโชตนา ใกล้แยกข่วงสิงห์ พบนายบอล หรือ นายบุญก่อ เป็นคนขับ จึงได้นำรถมาตรวจค้นอย่างละเอียดที่ สภ.ช้างเผือก และพบของกลางเป็นยาบ้า 6 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกองผักกะหล่ำปลีในกระบะท้ายรถ
โดยจากการสอบสวน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า เคยรับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งเเต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีปลายทางอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดแล้ว 1 ราย พร้อมทั้งตรวจยึดอายัดทรัพย์สิน เป็นรถยนต์ 2 คัน บ้านพร้อมที่ดิน 1 หลัง ทองรูปพรรณและทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งเครือข่ายนี้ เป็นเครือข่ายของกลุ่มลำเลียงยาเสพติดช่องทางนำเข้าทาง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ และจะเร่งรัดสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายผู้ร่วมกระทำผิดทุกระดับ พร้อมทั้งขยายผลยึดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายเครือข่าย ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่อไป
นที มีเดช