รำลึกเกียรติภูมิ พลเอก ทวนทอง สุวรรณทัต กุนซือสมองเพชร ผู้ลงแส้ปราบพยศรถถังเหงียน
เมื่อวันพุธที่ 20 กันยายน 2566 เวลา 18.30 น.ที่ผ่านมา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา เข้าร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 74 ปี วันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามคำเชิญของนายหาน จื้อเฉียง (H.E. Mr. Han Zhiqiang) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โดย ศ.พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต. สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ที่ปรึกษารองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นผู้แทน และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วมงาน ในโอกาสนี้ได้พบกับนพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ขุมกำลังคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่ไม่ได้พบกันมาราว 18 ปีเต็ม จึงได้ถือโอกาสนี้ถ่ายภาพร่วมกับท่านอัครราชทูตอู๋จื๊ออู่ โดยมี นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอกพฤณท์สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และดร.ประยูร อุปนายกสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน ร่วมบันทึกภาพประวัติศาสตร์อย่างพร้อมเพรียง
อ.ไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมรตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)ได้โพสต์บทความกล่าวถึง พลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต ว่าท่านเป็นบุตรชายของ พลเอกทวนทอง สุวรรณทัต ซึ่งถือได้ว่าเป็นยอดกุนซือคนสำคัญของแผ่นดินที่เป็นผู้รับผิดชอบในภารกิจจัดส่งทูตลับ 3 คนของกองทัพไทย ได้แก่ พล.ท. ผิน เกสร,พ.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ และพ.อ. พัฒน์ อัคนิบุตร เดินทางไปเจรจากับนายเติ้งเสี่ยวผิง ประธานคณะกรรมการทหารกลาง กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ในช่วงกลางปี 2521
โดยสาเหตุสำคัญในปฏิบัติการลับในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่เวียตนามฮึกเหิมส่งกำลังทหารประมาณ 3 แสนนายพร้อมกองพลรถถังกรีธาทัพมาประชิดชายแดนไทยภายหลังจากที่กองทัพสหรัฐ ถอนตัวถอนใจะเก็บกระเป๋าหนีกลับบ้านไปกันหมดแล้ว จนในที่สุดจึงเป็นที่มาของสงครามสั่งสอนเวียดนาม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2522 ซึ่งเป็นเหตุให้ กองทัพเวียดนาม 3 แสนคนต้องถอนกำลังออกจากชายแดนไทย ขึ้นไปยันกองทัพจีนที่ชายแดนกว่างสี ประเทศไทยจึงปลอดภัยตั้งแต่บัดนั้น
แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้อยคนมากที่จะรู้ว่า พล.อ. พฤณท์ สุวรรณทัต คือบุคคลที่รับคำสั่งตรงจากพล.อ.ทวนทอง ให้นำหน่วยบินเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพไทย บินเข้าไปรับคณะนายทหารจีนเมื่อครั้งแตกทัพจากกัมพูชา ในขณะที่กองทัพเวียดนามเปิดยุทธการบัวบาน บุกเข้ายึดกัมพูชา ซึ่งต่อมาพบว่า หนึ่งในคณะทหารจีนดังกล่าวนั้น มีบุคคลหนึ่งได้เจริญเติบโตก้าวหน้ามีอำนาจมากกว่าใคร คือพลเอกเฉากังฉวน มนตรีแห่งรัฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรองประธานคณะกรรมการทหารกลาง กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งต่อมาภายหลัง พล.อ. เฉากังฉวน ได้ให้สืบหาว่านายทหารไทยคนไหน ที่ไปรับท่านออกมาจากกัมพูชา โดยใช้เวลาในการสืบหาอยู่นานพอสมควร จนกระทั่งต่อมาได้ทราบความจริงว่าเป็น พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต นั่นเอง
ดังนั้นในปีหนึ่งที่บุตรีของท่านเติ้งเสี่ยวผิงเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อเยี่ยมเยียน พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และพล.อ.พัฒน์ อัคนิบุตร ซึ่งชราภาพมากแล้วทั้งคู่ จึงได้เชิญ พล.อ. พฤณท์สุวรรณทัต ให้ไปร่วมงานด้วย และได้มอบของขวัญขอบคุณด้วยความรำลึกถึงคุณพ่อของพล.อ. พฤณท์ณ โอกาสนั้นด้วย โดย พล.อ. ทวนทองฯ นับได้ว่าเป็นผู้มีเกียรติภูมิอย่างสูงยิ่งในประเทศจีน เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งทูตลับไปจีนในภารกิจดังกล่าว ดังนั้นเมื่อครั้งที่ พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณทัต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม และมีกำหนดเดินทางไปเยือนจีนในฐานะแขกของกองทัพจีน โดยมีพล.อ.ฟ่านจางหลง รองประธานคณะกรรมการทหารกลางเป็นเจ้าภาพต้อนรับ ประกอบกับเมื่อได้ทราบหนังสือลับจากสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีนเกี่ยวกับการเยือนครั้งนั้น โดยมีการอธิบายเชื่อมโยงว่า พล.อ.อ.สุกำพลฯ มีความสัมพันธ์กับบุคคลในประวัติศาสตร์อย่างไร จึงได้มีการเสนอให้ท่านสีจิ้นผิงรับทราบ ท่านประธานสีจึงได้ให้เกียรติออกมาต้อนรับ รมว.กระทรวงกลาโหมของไทยด้วยตนเอง แม้ว่าก่อนหน้านั้นไม่มีกำหนดการออกต้อนรับแต่อย่างใด ทั้งนี้สามารถถือได้ว่าเป็นการให้เกียรติและร่วมรำลึกถึง พล.อ.ทวนทอง สุวรรณทัต นั่นเอง
พล.อ.ทวนทองฯ ท่านถึงแก่อนิจกรรมไปนานแล้ว คนรุ่นหลังน้อยคนนักที่จะรู้จัก น้อยคนนักที่จะทราบถึง”คุณูประการความกล้าหาญ-ความเสียสละ”ของท่าน ดังนั้นจึงขออนุญาตนำเรื่องราวอันน่าจดจำเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อให้ท่านทั้งหลายได้ทราบว่า ยอดขุนพลของกองทัพไทย ที่เคยทำงานให้กับประเทศชาติบ้านเมืองโดยไม่หวังชื่อเสียงเกียรติยศใดๆ อย่างเช่น พล.อ. ทวนทอง สุวรรณทัต สุดยอดกุนซือนายทหารไทยผู้นี้ที่มีแม้ตัวจะลาจากโลกนี้ไปแล้วเนิ่นนาน หากทว่าคุณงามความดีนี้จะคงอยู่เล่าขานเป็น”อมตะวีรกรรมคู่แผ่นดินไทย”ตลอดไป
ดังที่เล่าเรียงมาทั้งหมดนี้จะถือเป็นพระคุณยิ่ง หากท่านผู้อ่านจะกรุณานำไปเล่าขานให้คนรุ่นหลังและให้ลูกหลาน พล.อ.ทวนทองฯได้รับรู้รับทราบ ดังเป็นการร่วมเชิดชูเกียรติยศแห่งความกล้าหาญนี้ให้เป็นเกียรติภูมิในแผ่นดินสืบไป…ตลอดกาล