มท.1 “อนุทิน ชาญวีรกูล” ชื่นชมฝ่ายปกครองพื้นที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ประสานฝ่ายความมั่นคงร่วมกันตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ 7.6 ล้านเม็ด มั่นใจชุมชนเข้มแข็ง บูรณาการของเจ้าหน้าที่เป็นกลไกปราบปรามยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2566 เวลา 8.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และคณะได้ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการกในพื้นที่ อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ในภารกิจสืบเนื่องจากเ 300 ล้านบาท บริเวณฌาปนสถานบ้านดอนชุม หมู่ที่ 4 ตำบลแม่ยางร้อง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ และไปตรวจสอบของกลางพร้อมแถลงข่าวการยึดยาเสพติดจำนวนดังกล่าว ณ สถานีตำรวจภูธรร้องกวาง อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร
นายอนุทิน กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่พร้อมอธิบดีกรมการปกครองและคณะในวันนี้เพื่อเป็นการมาดูเหตุการณ์ด้วยตนเอง เพื่อให้กำลังใจและชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและเป็นการเน้นย้ำถึงนโยบายของกระทรวงมหาดไทยที่ได้ประกาศเป็นศัตรูกับยาเสพติด และผู้มีอิทธิพลทุกรูปแบบซึ่งเป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ซึ่งการตรวจยึดยาบ้าได้ 7.6 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 300 ล้านบาทครั้งนี้ถือเป็นการปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายที่อุกอาจ แสดงถึงความทุ่มเทและเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน
“การจับกุมยาบ้าในครั้งนี้ถึง 7.6 ล้านเม็ด เป็นการจับกุมที่ใหญ่ที่สุดเป็นลำดับ 2 ของจังหวัดแพร่ แต่ในจำนวนนี้ถือว่ามีมูลค่าสูงมาก และเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งถ้าเราปล่อยให้ยาบ้าจำนวนนี้สามารถเล็ดลอดเข้าไปผ่านจังหวัดภาคเหนือตอนบนถึงกรุงเทพมหานครได้ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและเยาวชน ตลอดจนผู้เสพอีกประมาณค่าไม่ได้ เพราะในราคาที่จะไปขายปลีก จากข้อมูลตีไว้ที่ 40 บาทต่อเม็ด คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งสูงมาก ดังนั้น ต้องขอแสดงความชื่นชมที่ได้เห็นการทำงานร่วมกันตอบสนองนโยบายร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครองกระทรวงมหาดไทย และฝ่ายความมั่นคง คือ ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน จนทำให้เกิดปัญหาในการลำเลียงยาเสพติด และถ้าเราร่วมกันทำงานอย่างเข้มแข็งในครั้งนี้ จะทำให้คนคิดไม่ดีกับประเทศชาติต้องเจอกับอุปสรรคและทำผิดได้ยาก” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า การตรวจยึดในครั้งนี้คือตัวอย่างความร่วมมือกัน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชน เพราะเรื่องนี้เกิดจากการสังเกตความผิดปกติในพื้นที่โดยชาวบ้านเห็นความผิดปกติก็แจ้งกำนัน กำนันมาตรวจสอบพบว่าน่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายในตัวรถ ก็แจ้งนายอำเภอ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรร้องกวาง ทุกส่วนก็ได้เดินทางเข้าไป ซึ่งต้องย้ำว่าทุกคนมาด้วยความเสี่ยง เพราะของกลางมูลค่ามาก ถ้าเขาไม่เห็นความเข้มแข็งของฝ่ายบ้านเมือง เขาคงต้องมีความพยายามที่จะเอาของกลางเหล่านี้คืนไปให้ได้ ที่อาจเกิดการใช้อาวุธปะทะกัน ซึ่งโชคดีที่สิ่งเหล่านั้นไม่เกิด เพราะเขาเห็นความเข้มแข็งของฝ่ายบ้านเมืองผู้รักษากฎหมาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าพนักงานตามกฎหมายได้ทราบเบาะแสตัวตนผู้กระทำผิดแล้วและอยู่ระหว่างไล่จับกุมให้เร็วที่สุด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและผู้รับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ท่านมีนโยบายชัดเจนในเรื่องของการประกาศปราบปราม ป้องกัน และทำลายวงจรผู้ค้ายาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยรัฐบาลให้ความจริงจังและเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้การตอบสนองการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่ แต่ละปีรัฐบาลมีการทำลายยาเสพติดมูลค่าหมายหมื่นล้านบาท ต้องขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ผู้บังคับ การตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านผู้แจ้งเบาะแส ที่ท่านคำนึงถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ ทุกท่านคือผู้ที่สร้างความสุขให้บ้านเมือง
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอให้ความมั่นใจว่าการบูรณาการเช่นนี้จะมีการทำงานอย่างเรื่อย ๆ จะไม่มีใครชิงดีชิงเด่นเอาผลงานของตัวอง เพราะทุกฝ่ายมีความสามารถในการปกป้องกันและกัน ถ้าแยกกัน จะทำให้ไม่มีประสทธิภาพของการทำงาน โดยหลังจากนี้ยาเสพติดของกลางจะถูกลำเลียงไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเพื่อเข้าสู่กระบวนการทำลายโดยกระทรวงสาธารณสุขต่อไป
ในช่วงท้ายก่อนการเสร็จสิ้นภารกิจ นายอนุทิน พร้อมคณะได้พบปะฝ่ายปกครองในพื้นที่ จังหวัดแพร่ ชื่นชมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในปฏิบัติการครั้งนี้ที่สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ทั้งราษฎรผู้แจ้งเหตุ นายภูมิพัฒน์ กิจดำรงค์ไพศาล กำนัน ต.แม่ยางร้อง อ.ร้องกวาง ซึ่งสามารถประสานทุกหน่วยงานเข้าดำเนินการตามขั้นตอนได้อย่างรวดเร็ว
พร้อมกับให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในทุกระดับในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน มีการดำเนินการในระดับพื้นที่อย่างจริงจัง บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ดำเนินการเพื่อให้ผู้เสพเข้าสู่การบำบัดรักษา และนำไปสู่การฟื้นฟูสภาพทางสังคม ซึ่งการทำงานของฝ่ายปกครองร่วมกับชุมชนที่เข้มแข็งจะเป็นกลไกสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จตามนโยบาย
นที มีเดช