“โฆษกกอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน้า” ยันฝ่ายความมั่นคง ไม่เคยแทรกแซง ก้าวก่าย การตัดสินของผู้พิพากษาในคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผย 15 ปีที่ผ่านมา มียกฟ้องมากมาย เพราะหลักฐานไม่เพียงพอ ยัน เป็นดุลยพินิจของศาล ไม่มีใครแทรกแซงได้
พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค4 ส่วนหน่า กล่าวถึง กระแสสังคม จับจ้องมาที่ฝ่ายทหารฝ่ายความมั่นคงหลังจาก นายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษายะลา ยิงตัวเองในศาลหลังโพสต์ ขอคืนคำพิพากษาให้ผู้พิพากษา และคืนความยุติธรรมให้ประชาชน ว่า คดีนี้ เป็นคดีสำคัญ แต่ไม่ใช่คดีความมั่นคง
เหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงราษฎรมุสลิมเสียชีวิตจำนวน 5 ราย ในพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ 11 มิ.ย.2561 โดยพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องมีจำเลย 5 คน
นายสุกรี มูเซะ (จำเลยที่ ๑)
นายสะแปอิง สะเตาะ (จำเลยที่ ๒)
นายแวอาแซ แวยูโซะ (จำเลยที่ ๓)
นายมัสสัน เจะดือเระ (จำเลยที่ ๔)
นายอับดุลเลาะ มะสาเม็าะ (จำเลยที่ ๕)
โดยศาลชั้นต้นจังหวัดยะลา พิพากษาให้ ยกฟ้อง จำเลยทั้ง 5 ราย เนื่องจากพยานและหลักฐานไม่เพียงพอให้เชื่อได้ว่า จำเลยทั้ง 5 ราย กระทำความผิดจริงตามฟ้อง แต่ให้ขังจำเลยระหว่างอุทธธรณ์
พันเอกปราโมทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายทหาร ไม่เคยมีใครเข้าไปก้าวก่ายในกระบวนการยุติธรรม การสั่งฟ้องหรือไม่. ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานและดุลยพินิจของศาล มีการยกฟ้องคดีตั้งมากมาย ก็ไม่เคยปรากฏว่าผู้พิพากษาจะถูกย้าย หรือถูกปลด ไล่ออก และคงไม่มีใคร ที่จะมีอำนาจทำเช่นนั้นได้ อำนาจฝ่ายทหาร ฝ่ายบริหาร ไม่สามารถเข้าแทรก แซงหรือก้าวก่ายอำนาจฝ่ายตุลาการได้ ที่ผ่านๆมาได้เคยมีคำพิพากษายกฟ้องคดีความมั่นคงมากมาย ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะทุกคนเข้าใจดีว่า การใช้ดุลยพินิจ ต้องยึดมั่นพยานหลักฐานที่ทำให้ศาลเชื่อได้ว่าจำเลยได้ทำความผิดจริง
ขอบคุณข้อมูล : ศปชส.ฯ
สำนักข่าวความมั่นคง