นครพนม – ทนายดังพร้อมผู้ใหญ่บ้านโร่ร้องสื่อ แจ้งความเอาผิดผู้รับเหมาบุกรุก ที่ดินขุดปรับหน้าเขื่อน แม่น้ำสองสี ลั่นจะเอาเรื่องถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 15.00 น. นายธชศล อยานนท์ อาชีพทนายความ ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท. คำดี เฮียงบุญ รองผกก.สอบสวน สภ.ท่าอุเทน โดยกล่าวหาบริษัทรับเหมาสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังที่บริเวณปากแม่น้ำสงคราม บุกรุกเข้าใช้เครื่อง จักรขุดเอาหน้าดิน ของตนและของชาวบ้านอีกหลายราย โดยดินที่ขุดเอาไปได้ถูกนำไปถมตลิ่งที่สร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพังบริเวณแม่น้ำสองสี ริมฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำสงคราม บ้านตาลปากน้ำหมู่ 2ตำบลไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งความแล้ว ได้นัดหมายลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 3 มกราคม เวลา 13.00 น.
โดยนายธชศล หรือทนายใหญ่ เปิดเผยว่าตนมีที่ดินเป็นที่นาติดแม่น้ำโขง จำนวนสองแปลงเนื้อที่รวมกันประมาณ 12 ไร่ โดยมีหลักฐานการครอบครองเป็นโฉนดที่ดิน เมื่อราว ๆเดือนเดือนพฤศจิกายน 2566 ตนได้ไปเกี่ยวข้าวที่ได้ปักดำไปก่อนหน้านี้ ปรากฏพบว่าที่ดินของตนบริเวณส่วนที่ติดกับแม่น้ำโขง ที่กำลังมีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ถูกขุดเอาหน้าดินลึกประมาณ หนึ่งเมตรกว่าๆ ตลอดแนวที่สร้างเขื่อน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ตอนที่ตนมาปักดำนา ยังเป็นปกติและเมื่อสอบถามเพื่อนบ้านที่มีที่ดินข้างเคียงก็ได้ความว่า ผู้รับเหมาที่มาสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังเป็นผู้ขุดเอาดินไปถมตลิ่งที่สร้างเขื่อน นอกจากนั้นยังพบว่าต้นไม้ยืนต้นในที่ดินของตนทั้งต้นมะม่วง ต้นมะขามหวาน รวมถึงต้นจามจุรีใหญ่ก็ถูกโค่นไปจนเกือบหมด ส่วนที่เหลือก็คือ หลักฐานว่าเดิมที่ดินบริเวณนี้สูงเท่าไหร่ และถูกขุดตักไปเท่าไหร่ โดยยังมีต้นไม้หลายต้นที่ถูกขุดดินรอบ ๆ โคนต้นไปจนหมดเหลือเป็นเกาะดินยืนต้นอยู่เท่านั้น ซึ่งวันนี้นอกจากที่ดินของตนแล้วตนยังได้รับมอบอำนาจจากบริษัท ท่าใหม่ เอสพี จำกัด ซึ่งมีสำนักงานอยู่กรุงเทพมหานคร ให้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทที่รับเหมาก่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังแห่งนี้อีกด้วย โดยบริษัท ท่าใหม่ เอสพี จำกัดเป็นเจ้าของโฉนดที่ดินเนื้อที่กว่าสิบไร่ ซึ่งมีเขตติดกันกับที่ดินของตน ซึ่งหลังจากตนได้ตรวจสอบกับเจ้าของงานคือสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครพนม ก็ทราบว่าบริษัทที่ได้ทำงานนี้คือ หจก. รวมกิจ (1988) มีนายพีระพล ลิขิตสุวรรณ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ตนจึงได้ส่งหนังสือ ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ให้กับ หจก. รวมกิจฯ ให้มาพูดคุยเพื่อตกลงค่าเสียหายเนื่องจากยังสามารถพูดคุยกันได้ แต่ หจก. รวมกิจฯ กลับเพิกเฉยตนจึงต้องเข้าแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ส่วนนางลดาวัลย์ อุดานนท์ อายุ 74 ปี ชาวบ้านตาลปากน้ำ ที่มีที่ดินอยู่บริเวณดังกล่าวและถูกขุดเอาหน้าดินไปด้วยเช่นกัน กล่าวว่า ตอนที่คนงานเอาเครื่องจักรเข้ามาขุด ตนก็เข้าไปห้ามปรามแล้วพร้อมเตือนว่าได้ขุดเข้ามาในที่ดินของตนแล้ว แต่คนงานที่ขับรถแบคโฮ กลับบอกว่าจะต้องขุดดินออกให้มีระดับเท่ากันกับระดับแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง ซึ่งตนพยายามห้ามไม่ให้ขุดอย่างไรก็ไม่เป็นผล
นางสาว จารุวรรณ อุดานนท์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านตาลปากน้ำ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กล่าวว่าตนก็มีที่ดินอยู่บริเวณนี้เช่นกัน โดยที่ดินของตนมีระดับสูงกว่าระดับสันเขื่อนกันตลิ่งพังกว่าหนึ่งเมตร และได้ปลูกต้นไม้ยืนต้นหลากหลายชนิดในที่ดินเช่นมะม่วง มะขาม ลิ้นจี่ ลำไยรวมถึงต้นกล้วยอีกหลายกอ และมะละกออีกเป็นจำนวนมาก โดยทั้งหมดได้ออดผลผลิตให้เก็บกินและขายได้ทุกปี ตอนที่ผู้รับเหมาเอาเครื่องจักรเข้ามาขุดหน้าดินและโค่นต้นไม้ ตนก็พยายามเข้าห้ามปรามแล้วแต่เขาไม่ฟังได้แต่อ้างว่าทำตามคำสั่งเจ้านาย ซึ่งตนไม่สามารถบังคับให้เข้าหยุดได้จึงจำใจต้องปล่อยเลยตามเลย จนสภาพหน้าดินถูกขุดออกไปอย่างที่เห็น แต่มีต้นมะขามใหญ่ที่อยู่ในที่ดิน ตนห้ามไม่ให้เขาเอาออก เข้าจึงขุดดินรอบๆโคนออกอย่างที่เห็น โดยหากเป็นไปได้ตนอยากให้ผู้รับเหมานำเอาดินที่ขุดออกไปกลับมาถมและปรับสภาพให้เหมือนเดิม ถ้าไม่ได้ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เทพข่าวร้อน
เพลิงพระกาฬ
ฟร้องข่าวสด รายงาน