เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 เวลา 18.00 น. นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีฝ่ายวิชาการกรม ชลประทาน ในฐานะอุปนายกสมาคมชาวสงขลาเป็นประธานจัดงาน สงขลาสังสรรค์ครั้งที่17 หรืองาน “สงขลาที่รัก” ครั้งที่3 ณ อาคารเอนกประสงค์วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีฯ กรุงเทพฯ ในการนี้ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายกสมาคมชาวปักษ์ใต้(ในพระบรมราชูปถัมภ์) เป็นประธานในพิธีเปิดงาน (ผ่านทางระบบออนไลน์)
หลังจากพิธีเปิด ผศ.ดร.กานต์ บุญศิริ นายกสมาคมชาวสงขลา ได้เชิญชวนผู้มาร่วมงานยืนขึ้นร่วมร้องเพลง”กำลังใจ” เพื่อเป็นการให้กำลังใจ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล
ภายในงานยังได้มีการจัดอาหารพื้นเมืองที่แสนอร่อยของขาวสงขลาหลายประเภทไว้ต้อนรับ
ตลอดจนการแสดงต่างๆที่เป็นการสะท้อนอัตลักษณ์ของชาวสงขลา ไว้สำหรับรับการกลับมารวมตัวกันของชาวสงขลากว่า 800 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวสงขลาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ที่สานใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อมาพบปะสังสรรค์กัน หลังจากที่ว่างเว้นการจัดงานมาเป็นเวลานาน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโค-วิด 19 โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้ง เป็นการยืนหยัดและตอกย้ำคำว่า “ชาวสงขลาไม่ทิ้งกัน“
สมาคมชาวสงขลาโดย ผศ.ดร.กานต์ บุญศิริ นายกสมาคมฯ “ได้มีการดำเนินงานตามแนวนโยบาย ในการร่วมกันสร้าง สาธารณะประโยชน์ เพื่อเป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติให้สอดคล้องกับแนวปณิธาณอันแน่วแน่ ของ ฯพณฯพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โครงการและงานต่าง ๆ ที่ได้ทำและก่อตั้ง ยังประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศชาติและประชาชน สมดังปณิธานที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน”
โดยในปีที่ผ่านมา สมาคมชาวสงขลาได้มีส่วนร่วม กับภาครัฐ-เอกชน ในการสนับสนุนเครื่องมือทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ โดยได้มีการประสานงานกับบริษัทมหาชน ในการให้การสนับสนุนการก่อสร้างโรงพยาบาลในเขตพื้นที่ จ.สงขลา อีกทั้งยังได้มีการจัดพิธีทอดผ้าป่าเพื่อหารายได้สมทบทุน มูลค่ารวมกว่า 50 ล้านบาท นอกจากนี้สมาคมฯ ยังได้สนับสนุนโครงการ “ห้องเรียนคุณภาพ”ให้กับโรงเรียนต่างๆใน 16 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา เพื่อสร้างโอกาสให้เด็กนักเรียนในจังหวัด สามารถเข้าถึง และสืบค้น แหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาได้ทัดเทียมกับเด็กนักเรียนในกรุงเทพมหานครอีกด้วย” ผศ.ดร.กานต์ บุญศิริ นายกสมาคมฯกล่าวด้วยความภูมิใจ