อุทัยธานี – องค์ลง!! ไม่กลัวร้อน บวงสรวงพญานาคองค์พันระมิตร 2 เศียร 1 เดียวในประเทศไทย แห่ขบวนพญานาคลอยน้ำเข้าถ้ำ ตามความเชื่อของคนโบราณ
เมื่อเวลา 10.30. น. ของวันที่ 07 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานที่วัดยาง หมู่ 2 ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ซึ่งติดกับแม่น้ำใหญ่สะแกกรังได้มีชาวบ้านในพื้นที่และนอกพื้นที่ ต่างเดินทางมาร่วมงานพิธีบวงสรวงองค์พญานาคพันระมิตร สองเศียร โดยมีคณะทีมงานที่เลื่อม ใสศรัทธา นำรูปปั้นพญานาคสองสองเศียร มาไว้ที่วัดยาง เพื่อให้ชาวบ้านกราบไหว้สักการะ ที่ชาวบ้านสมัยโบราณเล่าสู่ต่อกันว่า ที่ใต้โบสถ์วัดยางแห่งนี้ ชาวบ้านเชื่อว่ามีพญานาคนั้นอาศัยอยู่ที่แม่น้ำใต้โบสถ์ของวัด หลังจากนั้นมาก็เกิดปฏิหารมาหลายครั้ง ในรูปคล้ายองค์พยานาคอยู่บนท้องฟ้าบ้าง บางรายก็จะพบงูเลื้อยมาประทับร่างที่องค์ปู่ศรีสุวรรณนาคราชบ้าง ส่วนบางรายก็ฝันว่าได้พายเรือบนแม่น้ำ แล้วก็พบพญานาคตัวใหญ่ แต่ไม่ทำร้าน มาปรากฏอยู่ที่แม่น้ำบ้าง ซึ่งมีเรื่องราวมหัศจรรย์เกิดขึ้นหลายครั้ง
โดยก่อนหน้านี้ ปีที่แล้ว ได้มีชาวบ้านสายบุญมาเที่ยวให้อาหารปลาแถวบริเวณแม่น้ำสะแกกรัง ซึ่งติดอยู่กับวัดยาง จู่ๆ ก็มีเงาร่างใหญ่คล้ายกับพยานาค ตัวสีดำมาปรากฏให้เห็น พร้อมกับชาวบ้านรายนั้น ได้เดินทางมากราบไหว้ที่วัดยาง จึงได้เดินดูรอบวัด ดันไปพบว่ามีรูปปั้นองค์พยานาคปู่ศรีสุวรรณนาคราช ตั้งสักการะอยู่ติดกับแม่น้ำมีอยู่จริง ชาวบ้านรายนั้นจึงเชื่อว่าที่ชาวบ้านเห็นน่าจะเป็นองค์ปู่นาคราชอย่างแน่นอนที่มาปรากฏตัวให้เห็น พร้อมกับตนเองนั้นเชื่อและศรัทธาพยานาคมาก่อนหน้านี้ ล่าสุดชาวบ้านรายนั้น พึ่งทราบว่าที่วัดยางพึ่งจะนำรูปปั้นพญานาคปู่มาไว้ที่วัด แต่ยังไม่ทำพิธีบวงสรวงให้กับองค์ท่าน ชาวบ้านรายนั้นจึงได้ติดต่อกับทางวัดยาง เพื่อขอเป็นตัวแทนทำพิธีบวงสรวงให้กับองค์ปู่พญานาคให้ ระหว่างทำพิธีก็เกิดปรากฏการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง จนทำให้ชาวบ้านเชื่อ ว่ามีพญานาคมาอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำที่วัดยางใต้โบสถ์อย่างแน่นอน
ล่าสุดวันนี้ ชาวบ้านพร้อมคณะทีมงาน ได้นำรูปปั้นองค์พยานาคองค์พันระมิตรสองเศียร และเป็นตัวแรก ตัวเดียว ซึ่งแปลกไม่เหมือนที่ไหน มามอบให้กับทางวัดยาง เพื่อไว้ให้ชาวบ้านสักการะกราบไหว้ พร้อมกับทำพิธีบวงสรวงให้กับองค์พยานาคพันระมิตรในพิธี
ส่วนบรรยากาศนั้นแดดค่อนข้างร้อนมาก ช่วงระหว่างทำพิธีสักการะให้กับองค์พยานาค ได้มีนางรำร่ายรำ อาการแปลกคล้ายกับองค์เข้า พูดภาษาคล้ายองค์เทพ ร่ายรำท่ามกลางบรรยา กาศร้อน โดยไม่รู้สึกเหนื่อย ส่วนนางรำอีกรายมีอาการคล้ายกับองค์ท้าวเวสสุวรรณโณ โดยทำท่าถือกระบอง ส่วนอีกราย เป็นชาวบ้านที่มานั่งร่วมพิธี จู่ก็ร้องเสียงกรีดขึ้นมา จนทำให้ชาวบ้านแตกตื่น เชื่อว่าเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์มารวมกันที่จุดนี้ พร้อมกับได้เลข 207 ไปเสี่ยงดวงด้วย และมีพิธีแห่ขบวนนำองค์พยานาคสองเศียร ซึ่งทำแบบอย่างขององค์พญานาคสองเศียร นำมาทำพิธี เพื่อลอยลงสู่แม่น้ำ เพื่อให้พยานาคนั้นลอยเข้าไปในถ้ำตามความเชื่อของคนโบราณสมัยก่อน
ภาวิณี ศรีอนันต์ รายงาน