กรมศุลกากร แถลงผลงานครึ่งปีงบประมาณ 2567 ตรวจยึดสินค้าเถื่อน มูลค่ากว่า 644.76 ล้านบาท
วันที่ 11 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. : นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำสิ่งที่ผิดกฎหมายเข้ามาในราชอาณาจักร อาทิ ยาเสพติด, บุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์, บุหรี่กัญชา, สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (สมอ.), สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา, สินค้าเกษตร, น้ำมันเชื้อเพลิง นั้น กรมศุลกากรได้ขานรับนโยบายดังกล่าว โดยเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงานตามด่านศุลกากรในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ อีกทั้ง ยังบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประสานข้อมูลด้านการข่าวและลงพื้นที่ปราบปรามผู้กระทำผิดในการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 4 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา กรมศุลกากรตรวจยึดสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในและออกไปนอกราชอาณาจักร จำนวนรวมทั้งสิ้น 2,307 คดี มูลค่า 644,762,297 บาท มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
- ยาเสพติด อาทิ เฮโรอีน โคคาอีน ECSTASY ตรวจยึดได้ 79 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 34 ราย จำนวน 321,511 เม็ด 219.23 กิโลกรัม มูลค่า 438,953,454 บาท ซึ่งประเภทยาเสพติดที่สามารถตรวจยึดได้มากที่สุด คือ เฮโรอีน จำนวน 28 คดี รองลงมาคือ โคเคอีน จำนวน 17 คดี
- กัญชา (นอกเหนือจากช่อดอกและสารสกัดชนิดต่าง ๆ จากกัญชาที่ยังถือว่าเป็นยาเสพติด) ตรวจยึดได้ 275 คดี ปริมาณ 4,831 กิโลกรัม มูลค่า 6,736,638 บาท
- บุหรี่ไฟฟ้า อุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า /บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า ตรวจยึดได้ 169 คดี จำนวน 262,693 ชิ้น มูลค่า 33,224,177 บาท
- บุหรี่ซิกาแรต ตรวจยึดได้ 1,004 คดี จำนวน 14,337,351 มวน มูลค่า 84,740,763 บาท
- สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน (สมอ.) ตรวจยึดได้ 18 คดี จำนวน 210,936 ชิ้น มูลค่า 52,310,000 บาท
- สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตรวจยึดได้ 306 คดี จำนวน 124,635 ชิ้น มูลค่า 11,986,665 บาท
- สินค้าเกษตร อาทิ กระเทียม ส้ม หอมแดง มะพร้าวและมะพร้าวฝอย ตรวจยึดได้ 302 คดีปริมาณ 409,397 กิโลกรัม มูลค่า 13,868,245 บาท
- น้ำมันเชื้อเพลิง ตรวจยึดได้ 154 คดี ปริมาณ 110,643 ลิตร มูลค่า 2,942,355 บาท
ทั้งนี้ กรมศุลกากรได้เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติพิธีการให้มีความรวดเร็ว ลดขั้นตอน โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยในการปฏิบัติงาน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและความยั่งยืนทางเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน