มุกดาหาร – “ส่วย” ขบวนการรถโดยสารเถื่อน รับแรงงานเถื่อน ขนของเถื่อน “สภ.ผึ่งแดด” ตั้งด่านจับ พบของมากมาย จ่ายภาษี “ศุลกากรมุกดาหาร” นิดเดียว ใครได้ใครเสีย (กระทรวงการคลัง, กระทรวงคมนาคม, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ,) ตรวจสอบ คลี่คลาย แก้ไข ด่วนๆๆๆ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 เมย. 67 สื่อสำนักข่าวความมั่นคงได้ลงข่าวถึง นายกฯ “เศรษฐา” กรณีมีรถบัสโดยสารป้ายทะเบียนลาว วิ่งรับส่งแรงงานชาวเวียดนามที่ผิดกฎหมาย ขนของเถื่อนของหนีภาษี และขนสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เข้าออกในประเทศไทยนานถึง 8 ปี สื่อได้ลงรายละเอียดให้ข้อมูลในข่าวอย่างชัดเจน แต่ท่านนายกฯ และหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบดูเหมือนจะไม่สนใจในข่าวที่ทางสำนักข่าวความมั่นคงได้นำเสนอ เพราะไม่เห็นมีใครหรือหน่วยงานไหนสั่งการให้จับกุมหรือมีมาตรการใดๆ ออกมาป้องกันเกี่ยวกับรถโดยสารลาวพวกนี้ ซึ่ง ณ ตอนนี้ก็ยังคงวิ่งรับส่งแรงงานเวียดนามและขนของหนีภาษีเข้าออกเมืองไทยได้ตามปกติ ทีมงานสื่อที่ติดตามเรื่องนี้อยู่ได้ทำการปรึกษากัน ด้วยจิตใต้สำนึกที่พวกเราเกิดเป็นคนไทย ต้องรักชาติรักแผ่นดินเกิดของเรา จะไม่ยอมให้คนต่างชาติฯ บุกรุกเข้ามา เพื่อหาประโยชน์ด้วยการกระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายต่างๆ ในประเทศไทยโดยเด็ดขาด
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เมย.67 แหล่งข่าวได้แจ้งกับทีมผู้สื่อข่าว ว่าจะมีรถโดยสารป้ายทะเบียนลาวประมาณ 3 – 4 คัน รับคนเวียดนามแอบขนของผิดกกฎหมาย เดินทางจากฮาติ่งประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศลาว เข้าสู่ประเทศไทยทางด่านชายแดน จ.มุกดาหาร ในวันที่ 20 เมย.67
ทีมงานสื่อ จึงได้วางแผนไปรอดักรถโดยสารป้ายทะเบียนลาวดังกล่าว ที่ชายแดนไทยหน้าด่าน จ.มุกดา หาร จนกระทั่งเวลา 2 ทุ่มกว่าโดยประมาณ ก็มีรถโดยสารสีน้ำเงินขาววิ่งออกมาจากด่าน ทางทีมงานสื่อจึงขับตามหลังรถโดยสารนี้ไป เห็นป้ายทะเบียนลาว บก3565 ขับไประยะนึง รถคันนี้ก็เข้าไปแวะจอดในปั๊ม ปตท. เพื่อให้ผู้โดยสารทานอาหารประมาณครึ่งชั่วโมงจึงออกเดินทาง ทีมสื่อตามต่อไปสักพักสังเกตเห็นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ขับมาตามประกบติดหลังรถโดยสารลาวคันนี้ ก็เลยคิดกันว่าน่าจะเป็นพวกเดียวกัน ทีมข่าวจึงขับตามไปแบบห่างๆ อีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะถึงด่านสามแยกไฟแดง สภ.ผึ่งแดด ทีมงานสื่อได้ปรึกษากันว่าถ้ามี ตร.ตั้งด่านอยู่ ก็จะแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ตรวจจับที่ด่านนี้เลยดีกว่า ตามต่อไปพวกนี้อาจจะรู้ตัวก่อน
พอขับมาก่อนถึงด่าน สภ.ผึ่งแดด ประมาณร้อยเมตรเป็นสามแยกไฟแดง รถโดยสารลาวที่ทีมสื่อตามมาจอดติดไฟแดงอยู่พอดี ทีมสื่อเลยขับแซงไปจอดที่กลางด่าน เพื่อจอดขวางรถลาวคันที่ตามมา และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ ตร.ทำการตรวจสบรถคันดังกล่าวทันที แต่กลับไม่เป็นดังที่ทีมสื่อคิดไว้ เพราะมีผู้ชายท่านนึงไม่ได้สวมเครื่องแบบออกมาโวยวาย อ้างว่าตัวเองเป็น ผกก. ซึ่งถ้าไม่บอกทางทีมสื่อคงคิดว่าเป็นพวกเวียดนาม เพราะดูแล้วไม่คอยพอใจทีมสื่อเท่าไร หาว่าทีมสื่อเป็นใครไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ราชการ ไม่มีสิทธิสั่งพวกเขา ทีมสื่อก็เลยตอบกลับไปว่า ไม่ได้สั่งครับท่าน ผกก. แค่แจ้งให้ตรวจสอบรถโดยสารคันนี้มีสิ่งผิดกฎหมาย และยังแจ้งให้สกัดตรวจสอบรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำที่ตามมาด้วยกัน แต่ปล่อยผ่านไปเฉย ทีมสื่อมองหน้ากันแบบงงๆ
จากนั้น ตร.ตรวจสอบรถโดยสารป้ายทะเบียนลาว บก3565 เบื้องต้นตรวจที่ด่านเสร็จแล้ว จึงให้คนขับชาวเวียดนามนำรถไปตรวจค้นต่อที่ สภ.ผึ่งแดด ห่างจากที่ตั้งด่านประมาณสามถึงสี่ร้อยเมตร ตร.เริ่มต้นทำการตรวจค้นเปิดที่เก็บของข้างใต้รถ พบกล่องกระดาษแพ๊คมาอย่างดี แล้วให้คนเวียดนามขนลงจากรถมีประมาณ 19 กล่อง และยังเจอกระสอบปิดปากอย่างดีเพิ่มอีกจำนวน 9 กระสอบ จากนั้น ตร.สภ.ผึ่งแดด เปิดกล่องกับกระสอบดูแค่สามสี่ใบ จากการเปิดเห็นเป็นประเภทถ้วยชามกับเครื่องจักสานกระเบื้อง ผู้สื่อข่าวเลยถามท่าน ผกก.ทำไมไม่เปิดให้หมดทุกใบ ผกก.ตอบสื่อแค่สุ่มตรวจก็พอ
หลังจากตรวจค้นใต้รถเสร็จ ทีมสื่อได้บอกกับ ผกก.ว่ามีแหล่งข่าวแจ้งว่ารถคันนี้ซุกซ่อนสิ่งของผิดกฎหมายมาด้วย มันเก็บซ่อนไว้ในช่องลับบนเพดานใต้หลังคารถ มีรีโมทเปิดปิดได้ พอสื่อพูดจบ ผกก.ฉายเดี่ยวขึ้นไปตรวจสอบแต่ไม่ได้ค้นบนรถคนเดียว โดยห้ามผู้สื่อข่าว และคนอื่นตามขึ้นไปบนรถอย่างเด็ดขาด เพราะคนเวียดนามสั่งมาอีกที คนต่างชาติสั่งได้ คนไทยด้วยกันห้ามสั่ง ผกก.ตรวจแต่ไม่ค้นบนรถเสร็จ ทางตร.จึงแจ้งข้อหาคนขับรถชาวเวียด นามว่า นำรถที่ไม่จัดทำ พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยมาใช้ในการเดินรถ ปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท
ทางทีมสื่อได้ขอให้ ผกก.ตรวจสอบดูเอกสารที่เกี่ยวกับการนำรถเข้าออก และขนของเป็นจำนวนมากเข้ามาในประเทศไทยว่ามีเอกสารถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และผู้สื่อข่าวจะขอดูเอกสารด้วยแต่ ผกก.สภ.ผึ่งแดด ตอบปฏิเสธจะที่ให้ทางทีมสื่อดูเอกสาร โดยอ้างว่าคนเวียดนามไม่ให้ดู เลยหาความจริงไม่ได้ แล้วก็ปล่อยรถพร้อมของไปตามระเบียบ
ในระหว่างที่ตรวจสอบรถคันแรกอยู่ที่ สภ.ผึ่งแดด ก็ได้มีรถโดยสารสีแดงป้ายทะเบียนลาว บก2898 คันที่ 2 ขับมาจอดอยู่ที่ด่าน ทีมสื่อกำลังจะเดินไปดู พอสื่อถึงที่ด่านท่าน ผกก.แจ้งทีมสื่อว่าได้ทำการปรับเป็นเงิน 5,000 บาท ข้อหาเดียวกันกับคันแรก ทีมสื่อเห็นคนนั่งมาเต็มคันรถ แต่ไม่มีการตรวจค้นรถหรือตรวจสอบเอกสารคนบนรถแต่อย่างใด แล้วปล่อยรถออกไปตามระเบียบ
ทีมสื่อนั่งรออยู่ที่ด่านสักพักก็มองเห็นรถคันที่ 3 กำลังขับเข้ามาถึงด่าน ตร.จึงเรียกให้คนขับจอดรถ เพื่อขอตรวจค้น รถโดยสารคันนี้สีน้ำเงินป้ายทะเบียนลาว บข6789 ตร.สั่งคนขับลงจากรถ แล้วให้มาเปิดที่เก็บของด้านข้างใต้รถให้ดู ตร.กับผู้สื่อข่าวพอเห็นก็ตกใจ พบกระสอบอะไรเยอะมากเต็มที่เก็บของใต้รถ ตร.ขอดูเอกสารในการขนของและนำเข้าสินค้าทั้งหมด คนเวียดนามเอาเอกสารมาให้ ตร.ตรวจสอบดูมีแค่ใบเสียภาษีย่อย 4 แผ่น ตร.จึงบอกให้คนขับชาวเวียดนาม นำรถไปตรวจค้นเพิ่มเติมที่ สภ.ผื่งแดด พอไปถึง ตร.สั่งคนเวียดนามขนของลงจากรถทั้งหมดมีจำนวน 25 กระสอบ ตร.ให้เปิดดูแค่สองถึงสามกระสอบ ผู้สื่อข่าวจึงถาม ตร.ทำไมไม่เปิดตรวจดูให้มากกว่านี้ หรือทั้งหมด ในกระสอบอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายแอบซ่อนอยู่ก็ได้ ทีมสื่อลองยกกระสอบดูหนักมากยก 3 คนยังจะไม่ไหว ผกก.บอกกับทีมสื่อว่าเปิดไม่ได้ ต้องรอบให้ศุลกากรมาเป็นผู้เปิดตรวจสอบเอง และรถคันนี้ก็รับผู้โดยสารชาวเวียดนามมาเต็มคันทำไม ตร.ไม่เรียกคนโดยสารลงมาจากรถ เพื่อตรวจสอบหรือสอบถามบ้าง ผลสุดท้ายรถโดยสารสีน้ำเงินป้ายทะเบียนลาว บข6789 คันนี้ไม่ความผิดอะไรเลย แค่โดนยึดของจำนวน 25 กระสอบไว้ตรวจสอบ โดยศุลกากรหรือเปล่าไม่ทราบ อยากรู้ลองไปถาม พ.ต.อ.จิรวิทย์ ปานยิ้ม (ผกก.สภ.ผึ่งแดด) แล้วปล่อยรถไปตามระเบียบ
กลุ่มรถโดยสารลาวพวกนี้ รับแรงงานชาวเวียดนามที่ผิดกฎหมายพร้อมขนของหนีภาษี นำรถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร กับด่านศุลกากรมุกดาหาร เข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไรฝาก พ.ต.อ.พิทักษ์พงศ์ เจริญกุล (ผกก.ตม.มุกดาหาร), นายยติวัตร มนตริวัตร (นายด่านศุลกากรมุกดาหาร) ช่วยเข้มงวดกวดขัน เรื่องการเข้าออกของบุคคล ของหนีภาษี และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพราะด่านที่พวกท่านรับผิดชอบ เป็นต้นทางที่จะทำให้ขบวนการรถโดยสารลาวพวกนี้ เข้ามาทำผิดกฎหมายในประเทศไทย
“สิ่งที่กลุ่มรถโดยสารลาวทำผิดในเมืองไทย”
- รถโดยสารลาวพวกนี้ผ่านด่านมุกดาหาร เข้ามารับส่งผู้โดยสารในเมืองไทยถูกหรือผิดกฎหมาย พวกท่านเคยสังเกตหรือไม่ รถลาวที่รับคนเวียดนามโดยสารมา ตอนแสตมป์ขาเข้าไทยกับที่แสตมป์ขาออก เป็นคนเดียวกันหรือไม่ ถ้าเข้ามาท่องเที่ยวขากลับต้องกลับพร้อมรถคันที่โดยสารมาด้วยกัน
- นำรถโดยสารมาใช้บรรทุกของเป็นจำนวนมาก ผิดกฎหมายหรือไม่ ขนของเสียภาษีถูกต้องตรงตามสินค้าหรือไม่
- นำรถโดยสารลาวมาใช้บรรทุกของเข้ามาวิ่งในเมืองไทยน่าจะผิดกฎหมาย พรบ.ขนส่งหลายข้อ
- พนักงานขับรถเด็กติดรถเป็นคนต่างชาติทั้งหมด มีบัตรที่ได้รับอนุญาตทำงานในเมืองไทยหรือไม่
- จ่าย “ส่วย” เจ้าหน้าที่รัฐบางคนหรือไม่ ข้อนี้แหละที่ทำให้ขบวนการ รถเถื่อน แรงงานเถื่อน ของเถื่อน พวกนี้เข้ามาทำผิดกฎหมายในเมืองไทย ได้อย่างสะดวกสบาย
- หน่วยงานที่ “รับ” ผิดชอบ ตม.มุกดาหาร, ศุลกากรมุกดาหาร, ตม.3, ตม.4, สตม., ตร. ท่องเที่ยว, ตร.ทางหลวง, ตร.ท้องที่ตั้งด่านที่รถโดยสารพวกนี้ผ่าน, ตร.ท้องที่ ที่รถโดยสารพวกนี้ไปจอดรับส่งคนฯ
สุดท้ายแหล่งข่าวแจ้งอีกว่า คนเวียดนามกระซิบบอก ไปรับของที่โดนยึดไว้ เพื่อรอตรวจสอบที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร ก่อนรับของออกไปได้ทำเงินหายประมาณ “100,000” ที่ สภ.
ข่าวนี้จริงเท็จอย่างไรไม่ทราบ ขอฝากถึง พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สึนะ (ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร), พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย (ผบช.ภ.4.), พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย (ผบช.สตม.), “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” (รรท.ผบ.ตร.), และนายธีรัชย์ อันตนวานิช (อธิบดีกรมศุลกากร), นายจิรุตม์ วิศาลจิตร (อธิบดีกรมการขนส่งทางบก), ตรวจสอบ คลี่คลาย แก้ไข เรื่องนี้โดยด่วน
Cr “ใต้ฟ้า”