“ชาดา ไทยเศรษฐ์”ลุยเมืองพัทยา ปิดประตูตีแมว-บุกจับผับเดินยา จ่อฟัน! ปิดยาว 5 ปี “เดอร์ตี้ผับ”
“มท.3” ชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบ นำทีมอธิบดีกรมการปกครอง, รักษาการ ผบ.ตร.และผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด สนธิกำลังระหว่าง ชุดปราบปรามยาเสพติดของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ ปปส. บุกทะลายสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุมยาเสพติด “เดอร์ตี้ผับ – Dirty Pub Pattaya” ตั้งอยู่ภายในซอยกอไผ่ กลางเมืองพัทยา ขณะที่นักท่องเที่ยวแตกฮือ พากันโยนซองยาเสพติดทิ้งเกลื่อนพื้น เจอทั้งอาวุธปืนและมีด ควบคุมตัวนักเที่ยวไปตรวจปัสสาวะ เจอเป็นสีม่วงกว่า 200 ราย
ปฏิบัติการเขย่าหลุมดำกลางเมืองท่องเที่ยวชื่อก้องโลกครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 03.06 น. วันที่ 25 พฤษภาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.กระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรม การขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สั่งการให้ทางสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน ภายใต้การนำของ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ นำกำลังชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดและรักษาความสงบ ภายใต้ชื่อ “DOPA FORCE” ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ 5 สำนักจากกรมการปกครอง กว่า 150 นาย ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำโดย พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี และนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี บุกเข้าตรวจสถานบันเทิงชื่อ “เดอร์ตี้ผับ-Dirty Pub Pattaya ตั้งอยู่เลขที่ 47/126 หมู่ที่10 ภายในซอยกอไผ่พัทยา เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
โดยก่อนหน้านี้ กรมการปกครอง ได้รับการร้องเรียนว่า สถานบันเทิงดังกล่าวตั้งอยู่ใจกลางเมืองพัทยามีชุมชนล้อมรอบ เป็นที่รู้กันดีในหมู่ผีเสื้อยามราตรี “สายตื๊ด” ว่ามีบริการสิ่งมึนเมา จำพวกยาเสพติดครบวงจร ทั้งขายทั้งจัดโปรโมชั่นแจกฟรี ทำให้มีนักเที่ยววัยรุ่นชาย-หญิงและชาวต่างชาติ เข้าไปมั่วสุมแน่นขนัดทุกคืน บ่อยครั้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อผู้ที่พักอาศัยในย่านใกล้เคียง และยังเปิดเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงได้วางแผนเข้าจับกุม
ภายหลังจากที่ยกกำลังไปถึง พบว่าภายในผับกำลังเปิดเพลงเสียงดังลั่น ภายในร้านอัดแน่นไปด้วยนักเที่ยวกว่า 300 คน กำลังออกลีลาโยกย้ายส่ายเต้นตามจังหวะเสียงเพลง เคลิบเคลิ้มด้วยฤทธิ์เหล้าผสมความเมายาเสพ จึงสั่งให้หยุดทันที พอเปิดไฟเท่านั้น ทำให้นักเที่ยวน้อยใหญ่ถึงกับแตกฮือ พากันโยนซองพลาสติกบรรจุผงสีขาวทิ้งเกลื่อนพื้น และพยายามหาทางหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่กระจายกำลังบล็อกไว้ หมดแล้วแบบที่เรียกว่า “ปิดประตูตีแมว” ทุกช่องทาง
หลังจากควบคุมความวุ่นวายให้อยู่ในความสงบได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเริ่มคัดแยกชาย-หญิง ตรวจบัตรประจำตัวประชาชน ตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง 219 คน แยกเป็นชาย 103 คน และหญิง 116 คน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เก็บ ซองพลาสติกใสแบบซิปบรรจุผงสีขาวที่นักเที่ยวโยนทิ้งไว้เกลื่อนพื้น นำไปตรวจสอบ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในสำนวนคดีกับทางเจ้าของผับ
ขณะเดียวกัน กำลังเจ้าหน้าที่อีกส่วน เข้าตรวจสอบรถยนต์จอดอยู่ ในอาณาบริเวณผับ คันแรกพบอาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 11 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุน 9 นัด ซึ่งเป็นของ นายธนนันท์ เข็มทอง อายุ 23 ปี อีกกระบอกเป็นปืนขนาด 9 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุน 10 นัด เป็นของ นายภูวไนย ปรึกษาชาติ อายุ 30 ปี ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ โดยอ้างว่าพกติดรถไว้เพื่อป้องกันตัว ขณะที่ภายในรถยนต์บางคัน ตรวจค้นเจอยาเสพติดซุกซ่อนไว้อีกด้วย
ต่อมา ทางหัวหน้าชุดปฏิบัติการของกรมการปกครอง ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา เข้าร่วมตรวจสอบ พร้อมกับควบคุมตัวผู้ที่พบการกระทำความผิดคดีครอบครองอาวุธปืน และเสพยาเสพติด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินการสอบสวนปากคำ และสืบหาขบวนการค้ายาเสพติดในสถานบันเทิงต่อไป
สำหรับ “เดอร์ตี้ผับ” Dirty Pub Pattaya สถานบันเทิงฉาวแห่งนี้ เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฏหมายกำหนด ปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งจะนำไปเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปีต่อไป
ภาพ/ข่าว
นายโยธิน พรมแตง
บรรณาธิการข่าวอาวุโส
สำนักข่าวความมั่นคง รายงาน