สุพรรณบุรี – ชาวนา อำเภอสามชุก ดอนเจดีย์ หลายตำบลเกือบ 300 คนเดือดร้อนฝนทิ้งช่วงไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว กำลังแห้งตาย รวมตัวเรียกร้องขอให้ชลประทานปล่อยน้ำเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) ช่วยนาข้าวที่กำลังแห้งตายหลายมื่น
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีเกษตรกรชาวนาเกือบ 300 คน เดินทางมารวมตัวกันที่โกดังบ้านกำนันตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ เพื่อเรียกร้องขอให้ชลประทานปล่อยน้ำเข้าคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุการณ์ฝนทิ้งช่วง โดยมีนายประภัตร โพธสุธน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 ผู้นำท้องถิ่น เดินทางมาร่วมเจรจาหาทางช่วยเหลือ เป็นการด่วนหากชักช้าข้าวในนาของเกษตรกรอาจเสียหายมากกว่านี้
นายประภัตร โพธสุธน อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าวันนี้เข้าสู่ฤดูทำนาของชาวนาอย่างเป็นทางการ ทุกปีเรามีทั้งน้ำฝน และน้ำที่ส่งมาจากเขื่อนเจ้าพระยา แต่ปีนี้เกิดภาวะฝนทิ้งช่วง มีฝนตกเล็กน้อยเป็นบางครั้ง ทำให้น้ำขาดแคลนปกติคลอง มอ.จะรับผิดชอบพื้นที่การเกษตรหลายแสนไร่ แต่วันนี้น้ำกลับมาได้ไม่ถึงครึ่งทางคลองมะขามเฒ่า – อู่ทอง รับน้ำมาจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ ระยะทางยาว 105 กิโลเมตร วันนี้น้ำมาถึง ก.ที่ 47 ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นคือพี่น้องเกษตรกรได้หว่านข้าวหมดแล้วแต่ปริมาณน้ำไม่มี ชาวนาจึงพากันมาเรียกร้อง และวันนี้ได้มาทำข้อตกลงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวนาที่ทำนาไปแล้วหลายแสนไร่ตั้งแต่กิโลเมตรที่ 47 ไปถึงกิโลเมตรที่ 72 ต่อจาก กิโลเมตรที่ 72 เราได้เอาน้ำมาจากบึงลาดน้ำเตียนขึ้นมาช่วย ซึ่งเรากำลังทำอยู่ วันนี้เราได้มีข้อตกลงโดยมีตนเอง ผอ.วิชัย ผู้อำนวยการจัดสรรน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และ แม่น้ำน้อย ซึ่งดูแลน้ำทั้งหมด พร้อมผู้นำ ชาวไร่ชาวนา ประกอบด้วยตำบลกระเสียว ตำบลบ้านสระ ตำบลหนองผักนาก ตำบลหนองสะเดา อำเภอสามชุก ตำบลหนองสาหร่าย ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ และเขตติดต่อ 3 อำเภอ
วันนี้เราตกลงกันว่าข้างต้นซึ่งมีโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลเทพ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่าโบสถ์ ชะลอและหยุดการใช้น้ำสัก 7 วันเพื่อปล่อยน้ำผ่านไซฟอนจาก กม.47 ไปถึง กม.72 ขอเวลา 7 วันให้โอกาสพี่น้องเกษตรทางนี้ซึ่งไม่เคยได้น้ำมานานนับเดือนแล้ว วันนี้เราตกลงกันว่าในช่วง 7 วันเราต้องดูแล 1 คลอง มอ.2 ลำห้วยกระเสียว ด้วยดังนั้นถึงแม้จะลำบากแต่เราก็พยายามแก้ไขจนสำเร็จ เช่นเราขอรถแบ็คโฮ มาขจัดวัชพืช ผักตบชวา และขยะที่กีดทางน้ำในคลอง มอ.ซึ่งสะสมมานาน เพื่อให้น้ำไหลสะดวกและเดินทางเร็วขึ้น และขอเครื่องสูบน้ำมาช่วยสูบน้ำ และขอให้ทุกคนให้ร่วมมือ
นายวิชัย ผันประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 12 ไดชี้แจงว่าวันนี้ที่ปากคลอง มอ.รับน้ำเต็มศักยภาพ ประมาณ 15 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้วยสภาพของคลอง มอ.ที่มีความยาว ตอนนี้นำเดินทางถึง กม.ที่ 51 ในส่วนการแก้ไขปัญหาการไหลของน้ำขณะนี้เราได้เร่งรัดกำจัดวัชพืชโดยการนำเอารถแบ็คโฮบูมยาว 6 ชุดบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำจัดวัชพืชเพื่อเปิดทางน้ำ
ในส่วนการพิจารณาน้ำหน้าเขื่อนก็ได้ประสานหน่วยเหนือเพื่อสนับสนุนในส่วนของปริมาณน้ำต้นทุนมาจากด้านบนเนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนถ้าไม่มีฝนเลยน้ำชลประทานจะลำเลียงมาจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิตติ์ ระยะทางเกือบ 400 กิโลเมตร กว่าจะมาถึงเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำเข้าซ้ายขวาซึ่งดูแลพื้นที่ชลประทาน กว่า 7 ล้านไร่ก็พยายามสนับสนุนเพิ่มประสิทธิภาพในการลำเลียงน้ำจากปากคลอง มอ.เข้าสู่ด้านท้าย และมีการจัดรอบเวร มีการสนับสนุนเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ ส่วนตัวปริมาณน้ำที่รับเข้าคลอง 15 คิวยังไม่เพียงพอเท่าไหร่แต่การจัดรอบเวรและผลักดันน้ำให้ไปพื้นที่ด้านท้ายให้เร็วที่สุดก็จะช่วยได้ การบริหารจัดการน้ำตนและทีมเจ้าหน้าที่จะพยายมช่วยอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือตรงนี้ แต่ก็ขอฝากว่าหากโครงการชลประทานในพื้นที่ขอความร่วมมือขอให้รับฟังและให้ความร่วมมือช่วยกันทั้งระบบคลองด้วย
นายสมเดช โพธิ์สุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลกระเสียว อำเภอสามชุก เกษตรกร ทำนา 200 กว่าไร่กล่าวว่าปัญหาที่เกิดตอนนี้ก็คือเมื่อช่วงที่ผ่านมาคลอง มอ.มีน้ำเกือบเต็มคลอง ทำให้เกษตรได้ทำนากันหมดเต็มพื้นที่ แต่มาตอนนี้น้ำแห้งคลองข้าวที่หว่านไว้กำลังจะแห้งตายก็อยากขอร้องทางชลประทานและนายประภัตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่กำลังจะสิ้นหวังกับการทำนาครั้งนี้ เพราะความหวังของชาวนาก็คือข้าวที่จะเติบโตขึ้นมาหล่อเลี้ยงชีวิตของทุกครัวเรือน เหนื่อยงานชาวนาทนได้แต่ตอนนี้ชาวนาเหนื่อยใจเรื่องน้ำไม่มีเพราะยังไม่รูว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไร ขณะนี้นาข้าวหลายแปลงเริ่มทยอยแห้งตาย ก็อยากให้กรมชลช่วยเร่งระบายน้ำให้เกษตรกรให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรด้วย และการรวมตัวของเกษตรกรวันนี้เพื่อเรียกร้องให้ชลประทานช่วยระบายน้ำเข้าคลองช่วยเหลือนาข้าวทางชลประทาน และนายประภัตร ได้รับทราบปัญหาและกำลังดำเนินการชาวบ้านต้องขอขอบคุณและพอใจในการแก้ปัญหาครั้งนี้
นายอุทัย แจ่มแจ้ง เกษตรกรผู้ใช้น้ำคลอง มอ.ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำคลอง 14 ตำบลดอนเจดีย์ กล่าวว่าช่วงแรกน้ำในคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง (คลอง มอ.) มีให้เกษตรกรได้ทำนากัน และหว่านข้าวไปได้ประมาณ 20 วันน้ำก็ขาดจากคลองมะขามเฒ่า -อู่ทอง ณ วันนี้วันที่เริ่มทำ ใช้น้ำคลองแต่ถึงวันนี้คงเป็นน้ำตาที่ไหลออกมาเพื่อช่วยแม่โพสพ ให้ยืนอยู่รอดก็ขอวิงวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยดูแลตรงนี้ด้วยหวังว่าปีนี้คงเป็นบทเรียน หวังว่าปีหน้าคงจะไม่มีความแห้งแล้งแบบนี้อีก ขอเสนอแนะว่าให้การดำเนินการแก้ไขให้นำมาให้เร็วที่สุดให้เป็นกิจจะลักษณะที่สุด ชาวนาขอทำนาปีละ 2ครั้ง เท่านั้นพอ
ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี