ข่าวใหม่อัพเดท » “บิ๊กจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ปรมาจารย์งานสืบสวน นักฆ่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“บิ๊กจ๋อ” พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ปรมาจารย์งานสืบสวน นักฆ่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์

20 มิถุนายน 2024
0

ท่ามกลางความระส่ำระสายในแวดวงสีกากี และเป็นประเด็นร้อนที่ประชาชนให้ความสนใจว่าจุดหมายปลายทางแห่งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยุติลงอย่างไร และใครจะสามารถเป็นอัศวินม้าขาวเรียกความเชื่อมั่นขององค์กรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการธำรงความยุติธรรมให้กับประชาชน

เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมนั้นๆ…ย่อมมีทั้งคนที่ดี และไม่ดีปะปนกันไป สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อยู่บริบทข้างต้น

“ชัยสมรภูมิ” ฉบับนี้ขอพาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักกับนายตำรวจผู้มากฝีมือหาตัวจับได้ยากคนหนึ่ง นั่นคือ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “บิ๊กจ๋อ” เจ้าของฉายา “ปรมาจารย์งานสืบสวน”  ซึ่งมีผลงานในการสืบสวนจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาในคดีใหญ่ๆ หลากหลายคดีด้วยกัน

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ เป็นชาวตำบลบางเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ตอนเด็กๆพ่อแม่ตั้งชื่อให้ว่า “เอ็ด” ส่วน ชื่อ “จ๋อ” ได้มาภายหลัง บิดาของบิ๊กจ๋อรับราชการทหาร สังกัดกรมพลาธิการทหารบก มารดาเป็นแม่บ้าน และเป็นนักการเมืองท้องถิ่น (ประธาน อบต.)

ชีวิตการศึกษาบิ๊กจ๋อเข้ารับการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยจังหวัดนนทบุรี ชีวิตของหนุ่มน้อยเป็นคนคงแก่เรียนใฝ่ฝันที่จะเป็นนายแพทย์ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ความฝันนี้ไม่ได้ไกลเกินเอื้อม เพราะเขามีผลการเรียนอยู่ในระดับที่ดีมาก ทว่าคุณพ่อต้องการให้เป็นนายตำรวจ เพราะคุณอาถูกคนร้ายลอบสังหารเสียชีวิต แต่ตำรวจไม่สามารถจับมือสังหารได้ อีกทั้งคุณพ่อมีความมุ่งมั่นที่จะเห็นประชาชนในสังคมมีความสงบสุขปลอดภัย  จึงผลักดันให้ลูกชายสุดที่รักเบนเข็มชีวิตเข้าสู่รั้วโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 31 และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน รุ่นที่ 47

บิ๊กจ๋อเด็กหนุ่มนักเรียนนายร้อยผ่านการฝึกอบรมจากโรงเรียนนายร้อยสามพรานสมความปรารถนาของผู้เป็นพ่อ เขาเข้ารับราชการครั้งแรกที่ สน.นางเลิ้ง ในตำแหน่งรองสารวัตรสืบสวนสอบสวน และเริ่มทำงานสืบสวนในตำแหน่ง รอง สว.กก.สส.บก.น.2

จุดเปลี่ยนชีวิตนายตำรวจครั้งสำคัญของ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ เกิดขึ้นจากการปรับโครงสร้างในหน่วยงานครั้งสำคัญ โดยการแยกงานสืบสวน จากงานสอบสวน ขณะนั้น นักสืบขาดแคลน จึงมีการเปิดหลักสูตรสืบสวน “30 นักสืบ” ซึ่งเปิดรับแค่ 30 อัตราเท่านั้น หลักสูตร 30 นักสืบนี้ถือว่าเป็นหลักสูตรที่ดีที่สุดในปี 2539 ก็ว่าได้ และบิ๊กจ๋อก็สามารถผ่านการคัดเลือกอยากเข้มข้นติด 1 ใน 30 นักสืบ

บิ๊กจ๋อเล่าถ่ายทอดประสบการณ์ถึงการจับกุมคนร้ายครั้งแรกในชีวิตของเขาว่า ผมจำได้ว่าขณะนั้น ได้เสียท่าให้กับคนร้ายขณะใส่กุญแจมือยังไม่เรียบร้อย ก็ถูกคนร้ายแย่งปืน และจับเป็นตัวประกันโดยใช้อาวุธปืนของเราจ่อที่ศีรษะ โดยอาศัยจังหวะแย่งอาวุธปืน แต่ปืนลั่นไปถูกคนร้ายอีกคนเสียชีวิตและยังพลาดไปถูก ท่านรองสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นบทเรียนที่ล้ำค่า เพราะทำให้เรารู้ว่าการเป็นนักสืบ…ถ้าพลาดเราก็ตาย!!!

จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเรามีแวว จึงได้รับการคัดเลือกให้มาเป็นชุดปฏิบัติการในภาคสนาม พร้อมสนับสนุนให้อบรมหลักสูตรสืบสวนมากมาย ระหว่างนั้นอาจารย์ก็เห็นความมุ่งมั่นท่านจึงได้ประสานขอทุนจากฝ่ายต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ไปศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตรการซักถามทางจิตวิทยา โดยครูที่สอนเป็นเบอร์หนึ่งของ FBI

นอกจากนี้ยังได้ผ่านหลักสูตรบริการเหตุการณ์วิกฤต และหลักสูตรเจรจาต่อรอง จากสหรัฐอเมริกา และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การเมือง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง

จากนั้นยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นวิทยากรหลักสูตรสืบสวนคดีอาญาของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษ โดยได้สอนวิชาสืบสวนก้าวหน้าระดับสารวัตร และวิชาการเจรจาต่อรองให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชีวิตราชการได้รับการพิจารณาเลื่อนชั้นมาตามลำดับ จวบจนปัจจุบัน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.)

พล.ต.ต.ธีรเดช กับภารกิจของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (สืบนครบาล) ว่า สืบนครบาลเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบคดีในเขต กทม.และพื้นที่ต่อเนื่อง มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบคดี อุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ตลอดจนงานที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย หรือสั่งการเป็นพิเศษ

บิ๊กจ๋อ แสดงความเป็นห่วงต่อภัยคุกคามประชาชนในห้วงเวลานี้ ว่าอาชญากรรมทางไซเบอร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอันดับหนึ่งของอาชญากรรมทั้งหมดไปแล้ว เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสในการกระทำความผิดมากขึ้น ซึ่งหน่วยสืบนครบาลได้มุ่งเน้นการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามอาญากรก็ต้องพยายามปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเพื่อให้ยากต่อการจับกุมของเจ้าหน้าที่ โดยใช้ประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานในการกระทำผิดทำให้ยากต่อการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้สืบนครบาลยังได้เน้นทั้งงานสืบสวนปราบปรามและงานป้องกัน โดยได้จัดทำเพจเฟสบุ๊กเตือนภัย “สืบนครบาล IDMB” เพื่อให้ประชาชนได้รู้เท่าทันกลโกงมิจฉาชีพออนไลน์

ที่ผ่านมาพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าชุด PCT5 ในการทลายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านได้หลายแก๊ง นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ให้ความรู้และดูและประชาชนที่มีแนวโน้มตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ เช่น การซื้อขายสินค้าแล้วไม่ตรงปก การกู้ยืมทิพย์ โรแมนซ์สแกรม และการเปิดบัญชีม้า เป็นต้น

หลักการทำคดี พล.ต.ต.ธีรเดช เล่าว่า เราถอดบทเรียนหลังการจับกุม เพื่อศึกษาองค์กรอาชญากรรมเนื่องจากหัวหน้าใหญ่ส่วนมากจะเป็นชาวจีนหรือชาวไต้หวัน ซึ่งจะมีการคิดสตอรี่ต่าง ๆรวบรวมไว้ เพื่อนำมาฝึกผู้ร่วมขบวนการ ดังนั้นการที่เรารู้เท่าทันอาชญากร และสามารถให้ความรู้กับประชาชน ก็จะทำให้ขบวนการก่ออาชญากรรม จะต้องคิดค้นเรื่องราวใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบันการหลอกลวงได้เปลี่ยนรูปแบบเป็นการส่ง SMS หรือส่งข้อความทางแอพพลิเคชันไลน์ ว่าจะถูกตัดน้ำตัดไฟ ให้กดที่ลิ้งค์ ฉะนั้นการให้ความรู้แก่ประชาชนเพื่อรู้เท่าทันจะทำให้ผู้ก่ออาชญากรรมไม่สามารถหลอกประชาชนได้อีกต่อไป

ในยุคที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร ได้มีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งความทางเทคโนโลยี เนื่องจากการแจ้งความของตำรวจตามโรงพักต่างๆ ไม่ได้ลิงค์ถึงกัน หรือหากมีการเชื่อมต่อแต่ก็ช้ามากเพราะระบบแมนนวล ดังนั้นพอมีศูนย์รับแจ้งความ ศูนย์จะรู้เลยว่าคนร้ายใช้วิธีการนี้หลอกคนทั่วไปไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนของประเทศเป็นรูปแบบวิธีการเดียวกัน และจะเอาเรื่องเหล่านี้มารวมกันและเตือนภัย

“ผมได้ทลายแก็งก์คอลเซ็นเตอร์ โดยเริ่มจากคนที่ไปทำหน้าที่คอลเซ็นเตอร์ก่อน ซึ่งไปดักตามตะเข็บชายแดนที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จนสามารถสืบทราบบ้านพัก ตอนแรกเข้าใจว่าเขาถูกหลอกให้ไปเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์ โดยจะถูกกักขังทรมานตามความเชื่อของเรา แต่พอเราไปทะลายจริง ๆ แล้ว และไปรับคนไทยในวันนั้นเราพบคนไทยกว่า 50 คนเพื่อขอรับกลับมาประเทศไทย แต่ปรากฎว่าไม่มีใครต้องการกลับมาเลย”

“ฉะนั้นผมขอสรุปแบบไม่ต้องวิเคราะห์ว่า คนไทยที่ไปทำเป็นแก็งก์คอลเซ็นเตอร์ยังประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้เขาไม่ใช่แค่เหยื่อ แต่เป็นเพียงผู้ร่วมกระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหานั้นเอง เพราะว่าเป็นไปไม่ได้เลยว่าคนชาติอื่นจะมาหลอกคนไทยเหมือนคนไทยหลอกคนไทยด้วยกัน ดังนั้นใครที่คิดที่จะไปทำงานฝั่งโน้น วันนี้จะต้องตกเป็นผู้ต้องหาหรือถูกดำเนินคดีทุกราย” นักฆ่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบุ

สุดท้าย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ฝากเตือนประชาชนถึงภัยที่จะมาในรูปแบบออนไลน์คนที่จะตกเป็นเหยื่อ จากสถิติเป็นคนที่อยู่กับบ้าน คนที่จะถูกก่อเหตุมักจะเป็นคนที่ออกมาทำงานข้างนอก แต่เดี๋ยวนี้ผู้ที่อยู่กับบ้านจะเป็นผู้สูงอายุ  หรือเป็นเด็กและเยาวชนที่ไม่ได้เสพสื่อเรื่องอาชญากรรมหรือสื่อที่เตือนภัยเรื่องอาชญากรรม จึงขอฝากทางคนในครอบครัวว่า คุณต้องพยายามเตือนหรือเล่าประสบการณ์ว่าช่วงนี้มันมีการก่อเหตุแบบนี้ อย่าเพิ่งตัดสินใจโอนเงิน หรือถ้าเรามีผู้สูงอายุที่มีแอพพิเคชั่นธนาคารที่อยู่ในมือถือ ควรแยกแอพฯธนาคารที่ใช้เป็นประจำออกจากมือถือเป็นการป้องกันภัยได้ดีที่สุด

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ “บิ๊กจ๋อ” เจ้าของฉายา “ปรมาจารย์งานสืบสวน” ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวจับกุมโจรผู้ร้าย ทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข กล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผมและข้าราชการตำรวจ โดยเฉพาะหน่วยสืบนครบาลทุกนาย พวกเรารู้ว่าสิ่งแรกในการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราก็คือ การเทิดทูนสถาบันและปกป้องสถาบัน  ผมได้รับระราชทานยศ และรับพระราชทานกระบี่จากพระองค์ท่าน ถือเป็นความภาคภูมิใจเป็นเกียรติภูมิสูงสุดของชีวิต ดังนั้นการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนความสงบสุขของบ้านเมืองจึงเป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนตระหนัก และจะมุ่งมั่นสืบสานตามพระบรมโชวาทที่พระราชทานให้กับข้าราชการตำรวจสืบไป.

ผลงานนักล่า“บิ๊กจ๋อ”เทพนคร1

1-จับกุม Mr.Thomas Andrew Erickson ครูสอนภาษาชาวอเมริกัน   ข่มขืนใจเหยื่อ สาวไทยและลูกศิษย์นับสิบราย

2-จับกุมนายโด้ และน.ส.ทิพย์ สองผัวเมีย ใช้รถแอมบูแลนซ์ (กู้ภัย) ขนยาบ้า 2.4 ล้านเม็ด หลังยิงปืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จว.สระบุรี และนำรถขนยาไป จอดทิ้งไว้ย่านหทัยราษฎร์ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ ก่อนหลบหนีไป

3-จับกุม 2 เยาวชนแก๊ง “ก็มาดิแก๊ส” ก่อเหตุปาระเบิดใส่ ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ ผบ.หมู่ บก.อคฝ. ได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณแยกดินแดง เมื่อวันที่ (11 ก.ย.)

4-นำทีมลากคอแก๊งมิจฉาชีพหลอกปล่อย เงินกู้ออนไลน์ให้เยาวชน อายุ 15 ปี ที่หวังนำเงินมาซื้อของขายออนไลน์ช่วยพ่อแม่ แบ่งเบาภาระ จนเงินเก็บหมดตัว สูญเงิน ไป 5,700 บาท

5-นำชุดสืบสวนภาค 2 และบูรพา 491 จับกุม นายซัยยิดมุฮ์ซิน หรือ “บังซีน” พร้อมพวกรวม 3 คน แอบอ้างเป็นตำรวจ บุกใช้อาวุธปืน ขอตรวจค้นบ้านพักพลู วิลล่า อ.แกลง จ.ระยอง ก่อนข่มขืนหญิงสาวผู้เสียหาย และใช้ไม้คมแฝกและอาวุธ ปืนทำร้าย จับขังไว้ห้องรับแขก ก่อนรื้อค้น เอาเงินไป 3.2 แสนบาท หลบหนี

6-นำทีมชุด PCT ที่ 5 สกัดไล่ล่าจับกุม สองสามีภรรยาขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคนไทยข้ามแดนไปทำงานประเทศกัมพูชา โดยใช้สายลับแฝงสมัคร งานก่อนเข้าจับกุมตัวการใหญ่ บริเวณ ถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางชายแดน ไทย-กัมพูชา ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นอกจากนี้ยังเดินทางไปพร้อม พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในสมัยนั้น ไปยังกรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อขอให้ช่วยส่งตัวผู้กระทำผิดมาดำเนิน คดีในไทย

7-จับกุมนายปิติ อายุ 54 ปี และนายนิติพันธ์ หรือแบน ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธ ปืนจ่อยิงใส่นายมานพ เสถียรเขตต์ ทนายความชื่อดัง อดีตผู้สมัคร สส.เขต 3 จ.ระยอง พรรคไทยรักษาชาติ และว่าที่ผู้ สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย จนเสียชีวิตต่อ หน้าภรรยาและญาติ ภายในปั๊มน้ำมัน ช.อำนวยทรัพย์ปิโตเลี่ยม เลขที่ 111 หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

8-จับกุมแก๊งไข่หวง 4 ผู้ต้องหาชาว ไต้หวัน เจ้าพ่อยาเสพติดไต้หวัน ยัดยาไอซ์ในเพลารถส่งข้ามชาติ พร้อมของกลางจำนวนมาก ได้ที่บ้านหลังหนึ่งย่าน แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

9-นำชุดสืบสวน 110 จับกุม “เอส คอ ลาย” บังคับลูกเลี้ยงวัย 12 ขวบเสพยา ข่มขืนกระทำชำเรา ก่อเหตุกว่า 13 ครั้ง

10-ไขคดีนายส่องศักดิ์ หรือเอ็ม และนาง สุนัน พ่อแม่แท้ๆ ฆ่าลูกวัย 2 ขวบ โบกปูนฝังดินโบกปูนอำพรางใน จ.กำแพงเพชร ขยายผลจนพบลงมือฆ่ารวม 5 ศพ พื้นที่ สน.บางเขน-สายไหม-บางซื่อ

11-ไขคดีฆาตกรรมเหี้ยมหนุ่มชาวไต้หวัน เชือกและสก๊อตเทปใสมัดมือไพล่หลัง- ปิดปาก ค้นตู้เซฟ โรงแรมย่านอุดมสุข ออกหมายจับและจับผู้ก่อเหตุได้ 4 ราย

12-ปิดคดี 6 ตำรวจห้วยขวาง รีดทรัพย์ กลุ่มดาราสาวไต้หวันและชาวสิงคโปร์ จำนวน 27,000 บาท เหตุครอบครองบุหรี่ ไฟฟ้า

13-ไขคดีเด็ก 14 ปี ใช้ปืนแบลงค์กัน ดัดแปลง กราดยิงภายในศูนย์การค้าสยาม พารากอน เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเสียชีวิตทันที 1 ราย และเสียชีวิตที่ โรงพยาบาล 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 ราย

ยังมีอีกหลากหลายคดีที่”บิ๊กจ๋อ” และทีมงานพิชิตคดีสำเร็จ เช่นคดี ยิงน้องภู่ นักเรียนเทคนิคดุสิตเสียชีวิต บนถนนระนอง 2 จนสามารถจับกุมมือปืนได้ อีกคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงครูเจี๊ยบ – และ น้องหยอด นักศึกษาอุเทนถวาย ย่านคลองเตย จนชุดสืบสวนขยายผลตามจับลากคอคนร้ายได้ยกทีม

     ผลงานการจับกุมสืบนครบาลถือว่าไม่ธรรมดา สามารถจับกุมและยับยั้งคดีดังที่ประชาชนให้ความสนใจทั่วประเทศเมื่อเร็วๆนี้ ที่เกือบเป็นข่าวดังไปทั่วโลก คือสามารถจับกุมแก๊ง“ฝรั่งเถื่อน”ข้ามชาติ ที่วางแผนลักพาตัวลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ชาวออสเตรเลียหวังเรียกค่าไถ่ 200 ล้าน หรือคดีรวบ “ไอ้แดน-หัวใจระเบิด” ที่พรากผู้เยาว ย่ำยี ถ่ายภาพคริป และกรณีจับหมอเก๊หลอกเงินเหยื่อสูญหลักล้านและฯ จึงสมควรยกให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ (บิ๊กจ๋อ) เป็นนักสืบชั้นปรมาจารย์ ที่สร้างความเชื่อมั่น และ ศรัทธาแก่พี่น้องประชาชน ด้วยจิตวิญญาณของนักสืบ นครบาล IDMB  คือเพชรเม็ดงามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างแท้จริง


 โดย…แคช ดาวเงิน

error: Content is protected !!