น่าน – ฮือฮา นางสาวบุญาณิส แซ่เต็น ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์) นำมัคคุเทศก์เจ้าบ้านน้อยต้อนรับดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต พร้อมคณะผู้บริหาร และคณะสื่อมวลชน รวม 43คน นำเสนอคำกระซิบรักบันลือโลกของปู่ม่าน ย่าม่าน ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ณ วัดภูมินทร์ เป็นภาษา ภาษาคำเมืองน่าน ด้วย ภาษาจีน
ที่วัดภูมินทร์ วัดภูมินทร์ อายุ 428 ปี ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน วัดมีลักษณะที่สำคัญคือโบสถ์และวิหารถูกสร้างเป็นอาคารเดียวกัน วัดภูมินทร์สร้างขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 2139 ภายใต้อำนวยการ นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน นางพิลาสินี ถาริยะวงศ์วนิช. ผู้อำนวยการโรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์. เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์). มอบหมายให้ นางสาวบุญาณิส แซ่เต็น ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์) สอนภาษาจีนชั้นอนุบาล 2 – ชั้นประถมปีที่ 6 นำเจ้าบ้านน้อยต้อนรับดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต พร้อมคณะผู้บริหาร และคณะสื่อมวลชน รวม 43คน และมัคคุเทศก์เจ้าบ้านน้อยนำเสนอคำกระซิบรักบันลือโลกปู่ม่านย่าม่าน ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ของหนานบัวผัน ณ วัดภูมินทร์
โดย นางสาวบุญาณิส แซ่เต็น ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์) ครูชาวอิ้วเมี่ยน เมืองน่าน จากบ้านห้วยสะนาว หมู่ที่ 2 ตำบลป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านป่ากลาง ตำบลป่ากลาง จบมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนปัว จบมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จบปริญญาตรี/โท มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ชีวิตการทำงานเริ่มต้นจาก เจ้าหน้าที่วิจัยสนามของ สถาบันวิจัย ม.เชียงใหม่ เกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมการพิทักษ์ป่าชุมชน อยู่ 4 ปี ปี 2540 สอบบรรจุได้เป็นครูที่โรงเรียนเทศบาล1 ศรีเกิดเทศบาลนครเชียงราย สอนอยู่ 5 ปี ปี 2545 ได้มีโอกาสไปอบรมภาษาจีน ม.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ปี 2548 ได้ไปเป็นครูแรกเปลี่ยนแรกสอนวิชาภาษาไทย ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคโนโลยี สิบสองปันนา เมืองเชียงรุ่ง จังหวัดสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน และได้มีโอกาสศึกษาวิชาภาษาจีนด้วย กลับมาสอนภาษาจีนที่โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครเชียงราย ช่วงปิดเทอมพาเด็กไปเข้าค่ายที่ประเทศจีน
ปี 2555 – 2557 เทศบาลนครเชียงรายได้ส่ง นางสาวบุญาณิส แซ่เต็น ไปเป็นสอนที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาและเทคโนโยลีสิบสองปันนาอีกครั้งครู และเป็นผู้ประสานงานดูแลครูแลกเปลี่ยนที่เทศบาลนครเชียงรายส่งไปสอนภาษาไทย ตามโรงเรียนต่างๆ ในสังกัดของเทศบาลเชียงรุ่ง จังหวัดสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน ประเทศจีน อีก 2 ปี และก็มีโอกาสเป็นล่ามภาษาจีนให้ผู้บริหารของเทศบาลนครเชียงรายที่เดินทางไปทำ MOU ที่ประเทศจีน หรือต้อนรับคณะผู้บริหารจากประเทศจีนเดินทางมาจังหวัดเชียงราย และยังมีโอกาสพานักเรียนและคณะครูไปเข้าค่ายภาษาและวัฒนธรรมจีน ที่โรงเรียนชาวจีนโพ้นทะเลกวางสี ที่นครหนานหนิง มณฑลกวางสี และได้ย้ายกลับเมืองน่านบ้านเกิด เมื่อเดือนเมษายน ปี 2561 เป็นครูสอนภาษาจีน ที่โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ เทศบาลเมืองน่าน (บ้านภูมินทร์) จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้เมืองน่านจะเน้นการรักษาวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกันภาษาต่างชาติก็มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาจีน เพราะว่าเราอยู่ใกล้ สปป.ลาว ไป ประเทศจีนใกล้มาก และนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนก็เดินทางมาเที่ยวเมืองน่านเยอะ ได้มีโอกาสมาสอนภาษาจีนที่โรงเรียนจุมปีฯเมืองน่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการต้อนรับนักท่องเที่ยว และโรงเรียนจุมปีฯ ก็อยู่ในเขตหัวแหวนเมืองเก่าน่าน ก็พยายามให้เด็กนักเรียนนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวเป็นภาษาจีน เริ่มต้นด้วยคำกระซิบรักบันลือโลกของ หนานบัวผัน ด้วย ภาษาคำเมืองน่าน ภาษาท้องถิ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ขณะนี้ มัคคุเทศก์เจ้าบ้านน้อยก็สามารถนำเสนอคำกระซิบรักบันลือโลกของปู่ม่านย่าม่าน ให้กับคณะของ ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต พร้อมคณะผู้บริหาร และคณะสื่อมวลชน รวม 43คน จนได้รับคำชมยอดเยี่ยม โดยเด็กนักเรียนหญิงจากชั้นประถมศึกษาปี 2 ปีที่ 3 และปีที่ 6 อีก 2 คน ได้บรรยายภาพบนฝาผนัง
ภาพหญิงที่สวยที่สุดในเมืองน่าน หรือโมนาลิซ่าเมืองน่านค่ะ นางมีนามว่านางแก้วสีไว หรือนางแก้วสีเวย นางเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ จึงมวยผมขึ้นเหนือศีรษะ และนำดอกไม้หอมหรือดอกไม้แห้งมาเสียบไว้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ถ้าตายไปแล้วจะได้นำดอกไม้นี้ไปถวายพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่หูก็จะระเบิดหู มีแผ่นทองบางๆ สลักชื่อวันเดือนปีที่เกิดห้อยไว้ที่รูติ่งหูแทนบัตรประจำตัวประชาชนเหมือนคนในสมัยนี้ค่ะ และมีคำกลอนที่บรรยายภาพนี้ไว้ว่า “คิ้วโก่งค้อม แวดอ้อมตาขำ เหมือนจันทร์เดือนแฮม สิบสองค่ำใต้ ฮิมปากอ่อนแดง เหมือนแสงก๊อไต้ หยังมางามวิไล เลิศล้ำ” หมายถึง คิ้วโก่งเหมือนพระจันทร์เดือนแรม 12 ค่ำ ริมฝีปากอ่อนแดงเหมือนแสงทับทิม ทำไมนางถึงงามเช่นนี้
และสุดท้ายซึ่งเป็นภาพไฮไลท์ ภาพบุคคลขนาดเท่าตัวจริง ของปู่ม่านย่าม่าน ที่มาของคำกระซิบรักบันลือลำ คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไป ก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้ จักหื้อมันไห้ อะฮิ อะฮี้ ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา ภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือภาพกระซิบรักบันลือโลก ปู่ม่านจะสักด้วยหมึกดำตั้งแต่พุงลงมาถึงต้นขา คำทางภาคกลางเรียกว่า การสักลาวพุงดำ สักสีแดงเป็นรูปคนวิ่ง เรียกว่า สักฝาง สักเพื่อประดับประดาตนเอง หรือหมายถึงในบ้านของชายผู้นี้มีข้าทาสบริวารเท่าไร ส่วนย่าม่านใส่เอี๊ยมเกาะอกหนา 2 ชั้น ใส่เสื้อคลุมแขนกระบอก ใส่ซิ่นที่ด้านหน้าจะมีการแหวกเล็กน้อยเพื่อการเดินที่สะดวก
จุดเด่นของวัดภูมินทร์ อายุ 428 ปี เมื่อราวปี พ.ศ. 2139 โดยเจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ เดิมชื่อ วัดพรหมมินทร์ ซึ่งเป็นพระนามของเจ้าเจตบุตรฯ ผู้สร้างวัด สันนิษฐานว่าในภายหลังได้เรียกชื่อกันเพี้ยนมาเป็นชื่อวัดภูมินทร์ในปัจจุบัน ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เป็นวัดสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน เป็นวัดที่สร้างทรงจัตุรมุขหนึ่งเดียวในประเทศไทยคือโบสถ์และวิหารถูกสร้างเป็นอาคารเดียวกัน ที่ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัว อาคารนี้เป็นทั้งพระอุโบสถ พระวิหารและพระเจดีย์ประธาน โดยใช้อาคารในแนวตะวันออก-ตะวันตกเป็นพระวิหาร และอาคารแนวเหนือ-ใต้ เป็นพระอุโบสถ รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในธนบัตรใบละ 1 บาท ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ได้จำลองพระวิหารหลังนี้ไว้ด้วย เป็นวัดสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดน่าน
จ.ส.อ.สันติไฌญ จารุพิพัฒน์บุตร NATION TV-NAN
นที มีเดช รายงาน