วันนี้ วันศุกร์ที่ 25 ต.ค.62 ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.สวนพลู สาธร กทม. : พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รองผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก. ตม.6, พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รองผบก.ตม.6 แถลงข่าวการจับกุม2 ต่างชาติติด Blacklist เปลี่ยนชื่อและหนังสือเดินทาง เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการตรวจสอบบุคคลต่าง ด้าว ที่เดินทางเข้ามาอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยระบบ Biomatrics พบคนต่างด้าวจำนวน 2 ราย เป็นบุคคล ซึ่งถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้าม หรือ Blacklist ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไว้ ซึ่งบุคคลดังกล่าว หลังจากที่ถูกส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร บุคคลเหล่านั้นได้เปลี่ยนชื่อตัวบางส่วน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นได้เดินทางกลับเขามาในประเทศไทยอีกครั้ง เป็นสัญชาติปากีสถาน 1 ราย และสัญชาติเบลารุส 1 ราย มีรายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.62 ตม.จ.ภูเก็ต ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ MR.SHEIKH (นายเชรค) สัญชาติปากีสถาน
เดิมชื่อ MR.AJMEL (นายอาจาเมล) สัญชาติปากีสถาน เคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหา เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด เมี่อปี พ.ศ. 2561 มีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ติด Blacklist ห้ามเข้าประเทศ 10 ปี ตั้งแต่ ปีพ.ศ.2561 ถึงปี พ.ศ.2571 ได้เปลี่ยนชื่อกลางของตน และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่านทางสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 5 ก.ค.62 ได้รับการตรวจลงตราประเภท NON-90 อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 2 ต.ค.62 จากการตรวจสอบบุคคลดังกล่าวสอบด้วยระบบ Biometrics พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามไว้
เมื่อวันที่ 10 ต.ค.62 ตม.จ.ภูเก็ต ได้ทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ MR.AKEXANDER (นายอเล็กซานเดอร์) สัญชาติเบลารุส
เดิมชื่อ MR.ALIAKSANDR (นายอเล็คซานเดอร์) สัญชาติเบลารุส เคยถูกจับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตเมี่อปี พ.ศ. 2561 มีพฤติการณ์เข้าลักษณะต้องห้าม ติด Blacklist ห้ามเข้าประเทศ 100 ปี ตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2561 ถึงปีพ.ศ.2661 ได้เปลี่ยนวิธีการสะกดชื่อนามสกุลของตนเอง และขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จากนั้นเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผ่านทางสนามบินนานาชาติภูเก็ต เมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 ได้รับการตรวจลงตราประเภท NON-90 อนุญาตให้อยู่ถึงวันที่ 12 ต.ค.62 จากการตรวจสอบบุคคลดังกล่าวสอบด้วยระบบ Biometrics พบว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ถูกขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้ามไว้
จากการซักถามปากคำเบื้องต้น และให้ดูหลักฐานการขึ้นบัญชีบุคคลต้องห้าม ทั้งสองจึงให้การรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ตรวจสอบพบจากระบบ Biometrics เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จ.ภูเก็ต จึงได้ทำการเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักร ของทั้งสอง จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวและดำเนินการส่งกลับออกนอกประเทศต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน