วันนี้ วันศุกร์ที่ 25 ต.ค.62 ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.สวนพลู สาธร กทม. : พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รองผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.อรุษ แสงจันทร์ รองผบก.ตม.6 แถลงข่าวการจับกุมรวบ 5 หนุ่มชาวเมียนมาร์ใช้หนังสือเดินทางปลอม
เมื่อวันที่ 13 ต.ค.2562 เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระนอง ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา 5 ราย ได้แก่
- นายซาน มอง (SAN MG) อายุ 22 ปี
- นายลา เต (HLA THEIN) อายุ 30 ปี
- นายนู ซอ (NU SAW) อายุ 42 ปี
- นายตาน ท่อ (THAN TUN) อายุ 30 ปี
- 5.นายอาว ซอ (AUNG SAW) อายุ 36 ปี
ในความผิดฐาน “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอม (ปอ.มาตรา 269/9)”
ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พบผู้ต้องหาทั้ง 5 รายข้างต้น นำหนังสือเดินทางเล่มของกลาง มาแสดงกับ เจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมืองประจาจุดตรวจสะพานปลา จากการตรวจสอบพบพิรุธน่าสงสัยจึงนำหนังสือเดินทางเข้าตรวจสอบในระบบ Biometrics พบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก และรูปผู้ต้องหาในระบบกับหนังสือเดินทางไม่ตรงกัน จึงเชิญตัวไปตรวจสอบโดยละเอียดที่ ตม.จว.ระนอง พบว่ามีร่องรอยการลอกแผ่นลามิเนตหน้าข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อตรวจสอบด้วยกล้องขยายไม่ปรากฏข้อความอักษรจิ๋ว (ไมโครเทค) ข้อความซ่อนคาว่า “REPUBLIC OF THE UNION OF MYANMAR” ที่แถบด้านบนและด้านล่างของหน้าข้อมูล
จึงเชื่อว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม เมื่อสอบถามผู้ถูกจับให้การรับสารภาพว่า มีภูมิลาเนาอยู่ที่รัฐยะไข่ ต้องการเดินทางมาหางานทำที่ประเทศไทย จึงว่าจ้างให้นายหน้า (ไม่ทราบชื่อและที่อยู่) เป็นเงิน 1 ล้านจ๊าด (ประมาณ 22,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือนำพาเข้ามาหางาน ในประเทศไทย โดยในวันเกิดเหตุนายหน้าได้นำหนังสือเดินทางมามอบให้พวกตนซึ่งในหนังสือเดินทาง หน้าที่ 10,12 และ 13 ปรากฏรอยตราประทับของพนักงานเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่ผู้ถูกจับยังไม่เคยเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยมาก่อนแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อมีการสืบสวนขยายผลปรากฎข้อมูลของ คนขับเรือชื่อ นายฉุ่ย ทอ (HTAY MYINT) สัญชาติเมียนมา ซึ่งขับเรือหางยาวรับจ้างขนคนโดยสารระหว่าง เกาะสอง-ระนอง ในวันเกิดเหตุและทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่าตนได้รับ การติดต่อจากชายชาวเมียนมา (ไม่ทราบชื่อ) ที่ท่าเรือสะพานปลาแจ้งว่าให้ไปรับชาวเมียนมา จานวน 5 คน จากท่าเรือเกาะสอง มาส่งที่ท่าเรือสะพานปลา โดยฝากหนังสือเดินทางไว้ให้ 5 เล่ม พร้อมเงินค่าโดยสาร 350 บาท
อนึ่งจากข้อมูลข้างต้นดังกล่าว ตม.จ.ระนองได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการสืบสวนขยายผลหาเครือข่ายการปลอมหนังสือเดินทางดังกล่าวต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน