ข่าวใหม่อัพเดท » รมว.ธรรมนัส ลุยจุดนำร่องรับซื้อปลาหมอคางดำ จ.สมุทรสาคร พร้อมเปิดโต๊ะหารือร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย

รมว.ธรรมนัส ลุยจุดนำร่องรับซื้อปลาหมอคางดำ จ.สมุทรสาคร พร้อมเปิดโต๊ะหารือร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย

25 กรกฎาคม 2024
0

รมว.ธรรมนัส ลุยจุดนำร่องรับซื้อปลาหมอคางดำ จ.สมุทรสาคร พร้อมเปิดโต๊ะหารือร่วมกับสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย

เมื่อวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.00 น. ณ สมาคมการประมงสมุทรสาคร อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครในการประชุมหารือร่วมกับผู้แทนสมาคมการประมง 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการรับซื้อปลาหมอคางดำ ณ จุดรับซื้อจริง และชมการสาธิตการทำน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำโดยกรมพัฒนาที่ดิน

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ซึ่งกรมประมงได้มีการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวฯ เป็นการเร่งด่วนผ่าน 5 มาตรการสำคัญ พร้อมทั้งบูรณาการทำงานร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินในการนำปลาหมอคางดำที่จับขึ้นมาได้ไปผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ และประสานความร่วมมือกับการยางแห่งประเทศไทยในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำในพื้นที่ระบาดทุกแห่ง ซึ่งขณะนี้ กรมประมงได้มีการรวบรวมแพปลาที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการด้านการประมง (ทบ.2) กับกรมประมง ในพื้นที่ที่มีการระบาด 14 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี, ระยอง, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, กรุงเทพมหานคร, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, ราชบุรี, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช และสงขลา รวมทั้งสิ้น 49 จุด สำหรับพิจารณาจัดตั้งเป็นจุดรับซื้อปลาหมอคางดำ โดยการันตีราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 15 บาท ก่อนรวบรวมปลาหมอคางดำที่รับซื้อไว้ไปให้สถานีพัฒนา ที่ดินแต่ละพื้นที่ผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ เพื่อส่งมอบให้การยางแห่งประเทศไทยนำไปแจกจ่ายแก่เกษตรกรในโครงการแปลงใหญ่ฯ เพื่อนำไปใช้ในพื้นที่สวนยางกว่า 200,000 ไร่ โดยจะเริ่มเปิดจุดรับซื้อปลาหมอคางดำทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้ เป็นต้นไป

สำหรับการลงพื้นที่ของคณะผู้บริหารกระทรวงเกษตรในครั้งนี้ที่จังหวัดสมุทรสาครซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีรายงานการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเป็นที่แรกและมีการระบาดมากที่สุด ได้มีการขับเคลื่อนการดำเนินการตาม 5 มาตรการสำคัญ จนสามารถกำจัดปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำธรรมชาติและบ่อเพาะเลี้ยงของเกษตรกรนำไปจำหน่ายให้กับโรงงานปลาป่นและผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องได้มากกว่า 500 ตัน ซึ่งถือว่าเป็นจังหวัดที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดมากที่สุด กรมประมงจึงได้มีการนำร่องจัดตั้งจุดรับซื้อปลาหมอคางดำขึ้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งหมด 5 จุด ประกอบด้วย

  1. แพธนูทอง หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร. 0804646479
  2. แพนางจารุจันทร์ จารวิไพบูลย์ (แพมิตร) หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร. 0873647298
  3. นายชัยพร กรุดทอง (บอย) 72 หมู่ 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร (คลองเจ๊ก) โทร. 0626585323
  4. นายเฉลิมพล เกิดปั้น หมู่ 5 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โทร. 0871714414 และ
  5. แพนายวิชาญ เหล็กดี หมู่ 2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โทร.0971950564

ซึ่งเป็นจุดที่ทางคณะผู้บริหารได้ร่วมสังเกตการณ์ในครั้งนี้ โดยแพนายวิชาญได้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ และตั้งเป็นจุดรับซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายให้กับโรงงานปลาป่นตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 พบว่าปัจจุบันมีการรับซื้อปลาหมอคางดำจากเกษตรกรและชาวประมงไปแล้วทั้งหมด 202,053 กิโลกรัม

นอกจากนี้ รัฐมนตรีและคณะผู้บริหารยังได้เยี่ยมชมกระบวนการผลิตน้ำหมักชีวภาพจากปลาหมอคางดำโดยสถานีพัฒนาที่ดินสมุทรสาคร กรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งก่อนหน้านี้สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครได้มีการประสานในการรับซื้อปลาหมอคางดำสำหรับผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพคุณภาพสูง (สูตรไนโตรเจนสูง) จำนวน 4,000 ลิตร โดยได้แจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ กลุ่มหมอดินอาสา กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชผัก ฝรั่ง ลำไย มะพร้าวน้ำหอม และพลู คิดเป็นพื้นที่ได้รับประโยชน์รวมกว่า 533 ไร่ อีกด้วย

โดยในวันนี้ได้มีการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำร่วมกับผู้แทนสมาคมการประมงทั้ง 16 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาด ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบทั้ง 9 มาตรการ ตามที่ทางสมาคมฯ เสนอ อาทิ การกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ การผ่อนผันเครื่องมือประมงพื้นบ้านที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการใช้จับปลาหมอคางดำ การจัดสรรงบประมาณเร่งด่วนสนับสนุนในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับชาวประมง และการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจในแต่ละจังหวัด เป็นต้น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายกรมประมงนำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติ โดยได้มอบหมาย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการขับเคลื่อนมาตรการต่าง ๆ พร้อมนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี เพื่อเสนอเป็นวาระแห่งชาติต่อไป

ล่าสุด กรมประมงได้มีการออกประกาศกรมประมง เรื่อง ประชาสัมพันธ์ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำ ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เพื่อประชาสัมพันธ์เน้นย้ำ สร้างการรับรู้ และการตระหนักรู้อย่างจริงจัง โดยมีสาระสำคัญว่า หากผู้ใดฝ่าฝืนทำการเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำจะถูกดำเนินคดีตามมาตรา 144 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากนำไปปล่อยในที่จับสัตว์น้ำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากพบเห็นเหตุดังกล่าวให้แจ้งสำนักงานประมงจังหวัดหรือสำนักงานประมงอำเภอในเขตท้องที่ทุกแห่ง หรือแจ้งเบาะแสพิกัดที่พบการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลาที่ https://shorturl.asia/3MbkG


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!