สื่อประจวบฯ หารายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว ยอมรับรายได้จากข่าวไม่พอกิน
วันที่ 3 สิงหาคม นายเอกภพ วงษ์ประเสริฐ ชาว ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสถานีโทรทัศน์ช่อง 30 เปิดเผยว่า ตนจบการศึกษาระดับ ปวส. จากเทคนิคประจวบฯเดิมมีอาชีพเป็นช่างประจำร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ในเมืองประจวบฯ จากนั้นได้ลาออก หลังจากถูกชักชวนไปประกอบอาชีพเป็นสติงเกอร์นักข่าว ทีวี.ดิจิทัล ช่อง 30 ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์รายวัน เคเบิล ทีวี ที่ อ.หัวหิน และทำข่าวออนไลน์อีกหลายสำนัก
จากการทำอาชีพสื่อมานานหลายปียอมรับว่ารายได้ไม่เพียงพอกับเลี้ยงครอบครัว เพราะไม่มีเงินเดือนประจำจึงยึดเป็นอาชีพหลักไม่ได้ รายได้จากการทำข่าวก็ต้องรอให้ข่าวออกอากาศ หากไปทำแล้วไม่ได้รับการพิจารณา ก็จะไม่ได้ค่าตอบแทน แม้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางทุกอย่างจะมีต้นทุน ยกเว้นสื่อต้นสังกัดสั่งให้ไปทำเป็นพิเศษ แต่เข้าใจว่าการคัดข่าวไปออกอากาศของ ทีวี แต่ละช่องก็มีมาตรฐานไม่เหมือนกัน ประเทศไทยมี 76 จังหวัดการหาประเด็นไปนำเสนอก็ต้องมีความโดดเด่น ประกอบกับปัจจุบัน ทีวี แทบทุกช่อง จะต้องลดต้นทุนงานข่าวจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ
นายเอกภพ กล่าวว่า ปัจจุบันนอกจากออกตระเวนทำข่าวตามปกติ ตนมีอาชีพทำกิจการเครื่องเล่นบ้านลม สวนสนุกที่ตลาดรถไฟไชโย ถนนมหาราช 1 ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ และในบริเวณเดียวกันยังมีบุตรชายเปิดร้านขายลูกชิ้นเป็ดย่าง และเปิดร้านตัดผมในราคาพิเศษ ซึ่งจะเปิดบริการลูกค้าในช่วงเย็นถึงค่ำของทุกวัน
ยอมรับว่ากิจการทั้งหมดคือรายได้หลักเลี้ยงครอบครัว ขณะที่การทำอาชีพนักข่าวจะเป็นอาชีพเสริม เพราะมีใจรักในการทำงานเพื่อสังคม อย่างน้อยได้เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนหรือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และส่วนตัวเดิมเป็นชาวบ้านในชนบท ที่ ต.เขาจ้าว ในอดีตก็ไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่าที่ควร ขณะนั้นยอมรับว่าไม่มีที่พึ่ง เพราะที่ผ่านมาไม่ทราบขั้นตอนการเรียกร้องความเป็นธรรมกับระบบราชการ และปัจจุบันเมื่อมาทำหน้าที่สื่อก็จะเป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชนที่ด้อยโอกาส
ซึ่งการนำเสนอข่าวแนวนี้มักจะได้รับการตำหนิจากผู้ที่เสียผลประโยชน์ไม่ต่างจากในอดีต โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐมักจะไม่พอใจ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าหากทำหน้าที่ให้ดี ก็ไม่ต้องทำให้สื่อนำไปวิพากษ์วิจารณ์ ตรงกันข้ามหากสื่อเสนอข้อมูลเท็จ ผู้เสียหายก็สามารถใช้สิทธิตามกฎหมายได้อย่างเต็มที่
นัครินทร์/รายงานข่าว