ประจวบฯ – ชุมชนต่อยอด ”ขยะแลกน้ำมัน” ใส่เครื่องตัดหญ้า ลดขยะดูแลสิ่งแวดล้อมชุมชน
4 ส.ค.67 นายอำนวย สุดกระแสร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหนองมะค่า นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ศูนย์เรียนรู้ชุมชนบ้านหนองมะค่า ไปดูกระบวนการกลั่นน้ำมันจากถุงพลาสติกที่คัดแยกจากขยะมูลฝอยภายในครัวเรือนของชาวบ้านชุมชนบ้านหนองมะค่า นำมากลั่นเปลี่ยนเป็นน้ำมัน ก่อนจะมีการต่อยอดแนวคิดให้ชาวบ้านนำขยะพลาสติกมาแลกเป็นน้ำมันนำกลับไปใช้ โดยชุมชนบ้านหนองมะค่า ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบฯ เป็นหมู่บ้านที่มีการจัดการขยะมูลฝอยอย่างเป็นระบบ โดยการคัดแยกถุงพลาสติกและขวดน้ำพลาสติกจากขยะมูลฝอยที่ใช้ในครัวเรือนนำกลับมาเข้าสู่กระบวนการเผาละลายผลิตกลั่นเป็นน้ำมันนำไปใช้กับเครื่องตัดหญ้าและอุปกรณ์เครื่องยนต์ที่ใช้ทางการเกษตร ซึ่งเป็นการช่วยลดขยะภายในครัวเรือน และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการจัดเก็บขยะมูลฝอย
โดยทางชุมชนบ้านหนองมะค่า เป็นหนึ่งชุมชนเข้มแข็งที่มีการบูรณาการจัดการร่วมกัน ร่วมคิด ช่วยทำร่วมกันในสังคมทุกรอบด้านผ่านคณะกรรมการชุมชน และยังเป็นศูนย์เรียนรู้ฝึกอบรมอาชีพ และจัดให้มีร้านค้าชุมชน ร้านค้าทางการเกษตร และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางการเกษตรให้ชาวบ้านนำไปปฏิบัติต่อยอด และนำผลผลิตที่ได้กลับมาจำหน่ายผ่านร้านค้าชุมชน สร้างรายได้ให้กับชาวสวนชาวไร่โดยไม่ต้องนำไปขายไกลบ้าน
โดยนายอำนวย สุดกระแสร ผู้ใหญ่บ้านหมู่10 เล่าว่า ชุมชนบ้านหนองมะค่า ต.หนองตาแต้ม ปัจจุบันเรามีการจัดทำแผนแม่บทเก็บข้อมูลขุมชนมาโดยตลอด จึงทราบปัญหาส่วนใหญ่คือสิ่งแวดล้อมการกำจัดขยะมูลฝอยในครัวเรือน จึงมีการจัดทำโครงการคัดแยกขยะภายในครัวเรือนโดยผ่านศูนย์ชุมชนส่งโรงรับซื้อนำรายได้กลับมาบริหารจัดการภายในชุมชนเพื่อหวังลดขยะชุมชนและสิ่งแวดล้อม แต่หลังจากศึกษาวิธีการทำอุปกรณ์เครื่องมือเผาละลายพลาสติกไปสู่กระบวนการกลั่นเป็นน้ำมัน โดยการเรียนรู้ผ่านคลิปใน YouTube จึงเกิดไอเดียเปลี่ยนขยะให้เป็นน้ำมันนำไปสู่กระบวนการข้างต้นให้ชาวบ้านได้นำไปใช้ใส่อุปกรณ์เครื่องยนต์ทางการเกษตร โดยไม่ต้องซื้อ หากชาวบ้านนำถุงพลาสติกหลังคัดแยกทำความสะอาดเสร็จแล้วให้นำมาแลกเป็นน้ำมันที่กลั่นจากถุงพลาสติกจากศูนย์เรียนรู้ชุมชนตามจำนวนน้ำหนัก เพื่อนำไปใช้ใส่เครื่องตัดหญ้าและอุปกรณ์เครื่องยนต์ทางการเกษตรบางรุ่น ซึ่งจะทำให้ช่วยลดต้นทุนแทนน้ำมันเบนซินที่ชาวบ้านต้องใช้กับอุปกรณ์เครื่องยนต์ทางการเกษตร และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มรายได้ในครัวเรือนได้บ้างไม่มากก็น้อย เพื่อให้ชาวบ้านในชุมชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า
นัครินทร์/รายงานข่าว