ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับกุมไอซ์ 27 กก. ยาบ้า 4,792,000 เม็ด โดยสามารถจับกุมพื้นที่จังหวัดสระบุรี
ตามนโยบายรัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระ ทรวงยุติธรรม, นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดทั้งระบบ ด้วยการสืบสวนขยายผลและวิเคราะห์ความเชื่อมโยงเครือข่ายของนักค้ายาเสพติดอย่างรู้เท่าทัน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร., พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลกรณีจับกุมยาเสพติดรายสำคัญทุกราย รวมถึงวิเคราะห์ความเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ผลิต นำเข้า ผู้ลำเลียง ผู้จัดเก็บ ผู้จำหน่าย และสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนเข้ามาถึงพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย
ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.1 /บช.ปส. โดย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมเกียรติ วัฒนพรมงคล รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง รอง ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ รอง ผบช.ปส. /ขกท. โดย พล.ต.อาทิตย์ ม่วงเล็ก ผบ.ขกท., ขกท. ศปก.นสศ. โดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ./ผู้ทรงคุณวุฒิคณะอนุกรรม การขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล กระทรวงมหาดไทย / ภ.จ.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.สระบุรี และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จ.สระบุรี /หัวหน้า ชปส. ศอ. ปส.ภ.1 ชุดที่ 2 และสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 1 โดย นางจีระพรรณ กาญจนประดิษฐ์ ผอ. ปปส. ภาค 1 และ ว่าที่ ร.ต.อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกนายในสังกัดบูรณาการร่วมกันสืบสวนจับกุมบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด
พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 และ เจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญจำนวนหลายคดี จนนำไปสู่การจับกุมนักค้ายาเสพติด และทีมลำเลียงยาเสพติดได้จำนวนมากหลายคดี และทำให้ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มภูเยือง สระบุรี ได้ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาเก็บพักไว้และกระจายให้กับกลุ่มผู้รับในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย และจากการสืบสวนทราบว่านายสิทธิชัยหรือบี และนายสมพรหรือกุ้ง ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดมาเก็บไว้เพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้า จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้รับคำสั่งให้ดำเนินการสืบสวนจับกุม จึงได้บูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนติดตามความเคลื่อนไหวของนายสิทธิชัยหรือบี และนายสมพรหรือกุ้ง
ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 จากการสืบสวนทราบว่า นายสิทธิชัยหรือบี และนายสมพรหรือกุ้ง จะนำยาเสพติดจำนวนมากมาซุกซ่อนไว้ภายในบ้านเลขที่ 131/20 (หมู่บ้านชนากานต์ 2) หมู่ 10 ต.หนองยาว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมและทำการตรวจสอบ โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง ดังนี้ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) น้ำหนักประมาณ 27 กิโลกรัม, ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ประมาณ 4,792,000 เม็ด, รถยนต์กระบะยี่ห้อ MAZDA สีเทา จำนวน 1 คัน (ใช้สำหรับลำเลียงยาเสพติด) โดยกล่าวหา นายสมพรหรือกุ้งฯ และพวกกระทำผิดฐาน จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณบ้านเลขที่ 131/20 (หมู่บ้านชนากานต์ 2) หมู่ 10 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 22.45 น.และจากการขยายผล สามารถจับกุมนายอาชาไนยหรือมิว ซึ่งเป็นผู้ที่มารอรับยาเสพติดได้อีก 1 คน การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการยับยั้งการแพร่กระจายของยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติด ของกลางหากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 146,000,000 บาท (หนึ่งร้อยสี่สิบหกล้านบาท) และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป
ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน