ผู้ช่วย ผบ.ตร. พบ ผบ.ตร.เมียนมา ร่วมหารือแนวทางสยบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคนไทยขายชาติ ตามยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร”
วันนี้ (30 สิงหาคม 2567) เวลา 15.15 น. ตามสั่งการ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสาร สนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร.) มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปอส.ตร. และคณะฯ เข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.วีน ส่อ โม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมียนมา และคณะฯ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่มาหลอกลวงคนไทย สร้างความเสียหายกับประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่ามีชาวไทยจำนวนหนึ่งเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์เหล่านี้ในฐานะลิ่วล้อ ร่วมกับตัวการใหญ่ที่เป็นชาวจีน ไปตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวโก๊ะโก๋ และเคเคพาร์ค รวมทั้งใน จ.ท่าขี้เหล็ก โดยทางตำรวจไทยและเมียนมาจะร่วมมือกันสืบสวนติดตามหัวหน้าแก๊งชาวจีนที่ข้ามไปมาตามแนวชายแดนจับกุมมาดำเนินคดี รวมทั้งส่ง “คนไทยขายชาติ” กลับมาดำเนินคดีในไทยให้ถึงที่สุด นอกจากนั้นแล้ว จากมาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” ในการตัดสัญญาณ เสา สาย ซิม ตามแนวชายแดน ทำให้คนร้ายหันมาใช้อุปกรณ์สื่อสาร Starlink ในการเชื่อมต่อสัญญาณกับดาวเทียม ทางตำรวจไทยและเมียนมา จะเข้มงวดการลักลอบขนย้ายอุปกรณ์ และในเร็วๆนี้ทางไทยจะส่งตัวคนเมียนมาที่ถูกจับกุมลักลอบนำอุปกรณ์ Starlink เข้าไทย ส่งไปให้ตำรวจเมียนมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอีกต่อไป
พล.ต.ท.ธัชชัยฯ กล่าวว่า มาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” ในการตัดจุดเชื่อมต่อของคนร้ายกับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณโทร เน็ต ซิมผี บัญชีม้า และสื่อโซเชียล กำลังขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เราเริ่มเห็นการใช้เบอร์โทรจากต่างประเทศของคนร้าย การเคลื่อนย้ายหลบหนีของกลุุ่มแก๊งที่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน และจากการพบปะพูดคุยกับทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเมียนมาในครั้งนี้ จะทำให้การติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่เป็นชาวจีนและคนไทยขายชาติ ที่อาศัยช่องว่างทางกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ให้มีพื้นที่ในการก่ออาชญากรรมหรือหลบหนีอีกต่อไป คนต่างชาติที่ชั่วร้ายเหล่านี้ที่มาก่อความทุกข์ยากต่อคนไทย รวมทั้งคนไทยขายชาติที่ไปช่วยเหลือคนต่างชาติมาปล้นคนไทยด้วยกัน จะต้องถูกนำมาลงโทษอย่างรุนแรงและสาสม ไม่ให้มีใครหลบหนีหรือเล็ดลอดได้แม้แต่คนเดียว
นทีมีเดช รายงาน