จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เตรียมแผนป้องกันน้ำเข้าโบราณสถาน ตรวจสอบประตูระบายน้ำพร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่
วันที่ 5 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ พร้อม นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท้องถิ่นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจติดสถานการณ์น้ำ ณ โบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม หลังจากเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนารามซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางกรมศิลปากรจึงได้ดำเนินการยกแผ่นเหล็กหรือแผ่นบังเกอร์ป้องกันน้ำท่วมแบบสำเร็จรูป รวม 138 แผ่น มีความสูง 1.90 เมตร กว้าง 1.20 เมตร ยาวตลอดแนวลำน้ำเจ้าพระยา หน้าวัดไชยวัฒนาราม รวม 165 เมตร ขึ้นทั้งหมดแล้ว พร้อมคลุมผ้าใบ และเตรียมกระสอบทรายกว่า 1,000 ถุง เพื่อนำมาวางเป็นแนวตะเข็บผ้าใบ หลังพบว่าตอนนี้ระดับน้ำที่ด้านฝั่งแม่น้ำเหลือประมาณ 70 เซนติเมตร ก็จะถึงแนวแผ่นเหล็กหรือแผ่นบังเกอร์ดังกล่าว
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะลงพื้นที่ ต.บ้านใหม่อ.พระนครศรี อยุธยา เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตั้งแผ่นเหล็กปิดทางน้ำจากแม่น้ำไม่ให้เอ่อล้นเข้าเขตชุมชน จึงได้ติดตั้งประตูเหล็กขนาดใหญ่ เพื่อป้องกันน้ำไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชน ต่อมา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะลงพื้นที่ ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำที่อำเภอเสนา พร้อมตรวจเยี่ยมศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัย ที่ อบต.รางจรเข้ อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา ร่วมเยี่ยมศูนย์อพยพ
สำหรับศูนย์อพยพแห่งนี้จัดตั้งขึ้นตามแผนเผชิญเหตุ หากเกิดเหตุอุทกภัย ในพื้นที่ อบต.รางจระเข้ และใกล้เคียง สามารถรองรับประชาชนได้กว่า 200 ครอบครัว มีความพร้อมทั้งห้องน้ำ อาหาร สถานที่ หากเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถอพยพประชาชนเข้าสู่พื้นที่ได้ทันที หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและคณะ ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ประสานงานย่อยการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ณ วัดศาลาปูน พร้อมดูสถานการณ์น้ำที่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา