พ่อเมืองนครพนม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นที่อำเภอศรีสงคราม
วันที่ 23 ก.ย.67 ที่จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางสาวกรณ์กาญจน์ แก้วดี นายอำเภอศรีสงคราม นายเดช บำรุงหงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครพนม ตัวแทนสมาคมชาวไทย-เวียดนามจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อำเภอศรีสงคราม พร้อมมอบถุงยังชีพเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น จำนวน 70 ชุด
โดยมอบให้ผู้ประสบภัยที่บ้านน้ำอูน หมู่ 4 ตำบลศรีสงคราม และตัวแทนตำบลหาดแพง รวมจำนวน 37 ชุด พร้อมลงเรือมอบให้ผู้ประสบภัยถึงบ้าน จำนวน 18 ชุด ได้พบปะพูดคุยให้กำลังใจผู้ประสบภัย เพื่อแสดงความห่วงใยและสร้างขวัญกำลังใจ โดยขอให้ดูแลสุขภาพของตัวเองและบุคคลในครอบครัวให้ดี พร้อมทั้งให้ระมัดระวังเรื่องกระแสไฟฟ้า สัตว์มีพิษ คนจมน้ำ และโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำ เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคฉี่หนูโรคไข้เลือดออก เป็นต้น เนื่องจากน้ำจะยังคงท่วมขังในที่ลุ่มต่ำอีกนานนับเดือน หากต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมขอให้แจ้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายกฯส่วนท้องถิ่น หรือนายอำเภอ
จากนั้นได้เดินทางไปยังศาลาการเปรียญวัดกัลยาราม บ้านปากยาม หมู่ 4 ตำบลสามผง อำเภอศรีสงคราม ซึ่งได้รับผลกระทบจากลำน้ำยาม ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนและเรือกสวนไร่นา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไกลสุดของอำเภอศรีสงครามติดกับตำบลสามัคคีพัฒนา อำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร โดยมอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้ผู้ประสบภัยที่น้ำท่วมบ้าน จำนวน 33 ชุด พร้อมทั้งได้เดินมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยที่เป็นกลุ่มเปราะบางตามบ้านเรือนอีกจำนวนหนึ่งด้วย
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ถึงแม้ว่าขณะนี้จังหวัดนครพนมปริมาณฝนที่ตกจะลดน้อยลง และระดับน้ำโขงลดลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำกว่าระดับวิกฤตเกือบ 1 เมตรแล้ว แต่ฝนที่ตกหนักในพื้นที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุดรธานี ทำให้น้ำดังดล่าวไหลลงสู่จังหวัดนครพนม ผ่านลำน้ำอูนและลำน้ำยาม โดยบรรจบกับแม่น้ำสงคราม ที่อำเภอศรีสงคราม ทำให้น้ำในพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีน้ำท่วมสูงอยู่ น้ำไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขงที่ตำบลไชยบุรี อ.ท่าอุเทน ได้อย่างเชื่องช้าเพราะระดับน้ำโขงยังต่ำกว่าระดับสงครามไม่มากพอ
สำหรับอำเภอศรีสงคราม ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจากลำน้ำยาม ลำน้ำอูน แม่น้ำสงคราม ล้นตลิ่ง และน้ำโขงหนุนสูงมากที่สุดของจังหวัดนครพนม โดยมีบ้านเรือนของประชาชนถูกน้ำท่วมขัง จำนวน 264 หลัง นาข้าว ได้รับความเสียหาย ประมาณ 51,000 ไร่.
ฟร้องข่าวด่วน/เทพข่าวร้อน/เพลิงพระกาฬ/รายงาน