คาช่องลับใต้คอนเทนเนอร์ นาทีเข้าจับกุมขบวนการขนย้านโรฮิงญา-เมียนมา
นี่คือภาพเหตุการณ์ขณะที่เจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช สกัดรถบรรทุก 18 ล้อชนิดลากแคร่พ่วงบรรทุกตู้คอนเนอร์ บริเวณแยกสวนผัก ถนนสาย 41 ช่วงตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากพบว่ารถคันนี้เป็นรถขบวนการขนย้ายชาวโรฮิงญาและชาวเมียนมา ไปยังประเทศมาเลเซีย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกระหว่างวันที่ 24 ต่อเนื่อง 25 กันยายน โดยการจับกุมนี้สามารถคุมตัวชาวโรฮิงญาที่ซ่อนตัวอยู่ในช่องลับใต้ตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 10 คนเป็นเยาวชนทั้งหมด และในตู้คอนเทนเนอร์พบชาวเมียนมาอีก 12 คน
โดยวานนี้ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่ากลุ่มชาวโรฮิงญา ได้เดินเท้าเข้าประเทศไทยผ่านทางอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก หลังจากนั้นได้เดินทางเข้ามาอยู่ในกรุงเทพมหานคร ก่อนถูกนำตัวมาส่งที่ปทุมธานี ส่วนกลุ่มชาวเมียนมาได้เดินเท้าเข้ามาทางด้านจังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นได้กระจายกันเดินทางโดยรถซึ่งมีผู้มารับเป็นชาวไทยมาส่งขึ้นรถบรรทุก 18 ล้อที่ปทุมธานี โดยชาวเมียนมาร์จะได้อยู่ในตู้คอนเทน เนอร์ ส่วนชาวโรฮิงญา ถูกนำมาไว้ในช่องลับใต้ตู้คอนเทนเนอร์เพื่อป้องกันปัญหาทะเลาะวิวาท โดยพบข้อมูลว่ารถคันเดียวกันนี้ขนชาวเมียนมาและโรฮิงญาแล้วอย่างต่อเนื่องหลายครั้ง
ได้ให้ข้อมูลว่า ได้จ่ายเงินสำหรับการเดินทางจากเมียนมา เพื่อไปยังมาเลเซียไม่เท่ากันโดยมีราคาประมาณ 6 หมื่น ถึง 1.4 แสนบาทต่อคน โดยมีทั้งแบบจ่ายเพียงครึ่งเดียว แล้วไปจ่ายที่ปลายทางอีกครึ่ง หรือบางคนมีคนจ่ายให้ส่วนใหญ่จะเป็นญาติหรือนายจ้างที่อยู่ในมาเล เซีย ให้กับกลุ่มผู้รับจ้างนำพาไปส่งยังปลายทาง โดยหลังจากเตรียมการเดินทางเมื่อ 3 วันก่อนได้ถูกนำมาร่วมไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดปทุมธานีโดยไม่ได้รับประทานอาหาร ได้ดื่มเพียงน้ำตลอด 3 วัน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่สกัดจับกุมไว้ได้
ล่าสุดความคืบหน้านั้นเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพได้เข้าสอบสวนและคัดกรองพบว่าในส่วนของเยาชนนั้น แพทย์ได้ตรวจสอบพบว่าจากมวลกระดูกพบว่าส่วนใหญ่มีอายุ 20 ปีแล้ว และสอบ สวนเบื้องต้นพบว่า การเดินทางเป็นความสมัครใจของชาวโรฮิงญา และเมียนมา ทั้งหมดมีเป้าหมายปลายทางในประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีและเตรียมผลักดันกลับประเทศ ส่วนผู้ต้องหาที่ขับขี่ขนส่งชาวโรฮิงญานั้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาให้พี่พักพิง การอุปการะ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพ้นการจับกุม ดำเนินคดีไปตามขั้นตอนแล้ว
ธีรศักดิ์ อักษรกูล รายงาน