ข่าวใหม่อัพเดท » ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ เหตุเพลิงไหม้รถบัส วอดทั้งคันเหตุเกิด ถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี

ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ เหตุเพลิงไหม้รถบัส วอดทั้งคันเหตุเกิด ถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี

3 ตุลาคม 2024
0

ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ เหตุเพลิงไหม้รถบัส วอดทั้งคันเหตุเกิด ถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี

สืบเนื่องจากเหตุผู้ขับขี่หลบหนี จากกรณีวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัส หมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี วอดทั้งคันนั้น เหตุเกิด ถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จังหวัดปทุมธานี

พลตำรวจตรี ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1,พลตำรวจตรี นราเดช ทิพย์รักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี,พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ,พ.ต.อ.นิรันดร ฟักสุบัน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี และ พ.ต.อ.กานตภณ วรรณณา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรคูคต ลงพื้นที่ ตรวจสอบและช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนหมายเลขทะเบียน 30-0423 สิงห์บุรี วอดทั้งคัน ซึ่งเป็นรถของโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี ระหว่างมาทัศนศึกษาทั้งหมด 3 คัน โดยคันเกิดเหตุเป็นคันที่ 2 ขณะมาถึงบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ได้เกิดอุบัติเหตุจนเกิดเพลิงไหม้ ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย เบื้องต้น มีรายงานว่ารถคันดังกล่าว มีเด็กนักเรียนและครูเดินทางมาทั้งหมด 45 คน ขณะเกิดเพลิงไหม้ สามารถออกจากรถได้ 22 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแพทย์รังสิต

ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ประสานหน่วยงานและสนับสนุนในการดับเพลิง ตลอดจนอำนวยความสะดวกและดูแลการจราจร โดยมีการปิดถนนวิภาวดีรังสิตคู่ขนานถาวร ทั้งช่องเลนด่วน และเลนปกติ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าทำงานในจุดเกิดเหตุ ประสารสื่อแจ้งประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว พร้อมทั้งได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุต่อไป

จัดตั้ง ศปก.ส่วนหน้า ที่บริเวณศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและความมั่นคง ในการบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน ควบคุม สั่งการ และประสานการปฏิบัติกับหน่วย เพื่อช่วยเหลือและดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยเร่งด่วน จากการสอบสวนทราบว่า เหตุดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตจำนวน 23 ราย ผู้รอดชีวิต 22 ราย ในส่วนของผู้รอดชีวิต ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล สถานีตำรวจภูธรคูคต ได้มีการแต่งตั้งคณะทำการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยจะเร่งรัดดำเนินการ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ด้วยความรอบครอบรัดกุม เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

เวลาประมาณ 12.15 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รรท.ผบช.ภ.1,ภ.จ.ปทุมธานี และ บก.สส.ภ.1 เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ขับขี่ ทราบชื่อต่อมาว่าชื่อ นาย สมาน จันทร์พุฒ ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดอุทัยธานี

จากการสืบสวนคุณครูที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้การว่านายสมานฯ เป็นผู้ขับขี่รถบัสคันดังกล่าว โดยมีญาติและบุคคลรู้จักในบริเวณพื้นที่จังหวัดอ่างทอง สิงห์บุรี จึงได้กดดันทั้งทางญาติและบุคคลที่รู้จัก จนกระทั่งทราบว่าอยู่บริเวณ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

เวลา 19.30 น. จึงได้ร่วมกับ ตร.สภ.วิเศษชัยชาญ จับกุมตัว นายสมานฯ ผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวในข้อหา ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล แล้วไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ไม่แสดงตัวและไม่แจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงาน เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 และพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43(4),78,157,160 วรรค 2 นำส่ง พงส.ดำเนินคดีต่อไป ตำรวจภูธรภาค 1 ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและผู้ประสบภัยในเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้

ตำรวจภูธรภาค 1 ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชน ผู้นำชุมชน สมาชิกแจ้งข่าวอาชญากรรม ในการแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 หรือทางสายด่วน 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง


สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน

error: Content is protected !!