ข่าวใหม่อัพเดท » “มันจนขาดสติ” สั่งมือดีทุบลายปูนปั้นซุ้มประตูเพียงแค่รถแห่เข้าโบสถ์ไม่ได้

“มันจนขาดสติ” สั่งมือดีทุบลายปูนปั้นซุ้มประตูเพียงแค่รถแห่เข้าโบสถ์ไม่ได้

30 ตุลาคม 2024
0

ประจวบฯ – “มันจนขาดสติ” สั่งมือดีทุบลายปูนปั้นซุ้มประตูเพียงแค่รถแห่เข้าโบสถ์ไม่ได้

29 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณลุงสมาน อายุ 71 ปี ชาวบ้าน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบฯ นำผู้สื่อข่าวพาชี้จุดขณะที่วงดนตรีรถแห่ในงานบุญงานบวชรายหนึ่ง ทำการทุบลายปูนปั้นบริเวณด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าโบสถ์ภายในวัดดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย เพียงเพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปวิ่งเวียนรอบโบสถ์เรียกเสียงเพลงให้บันดานักแดนซ์ในงานบุญงานบวชได้สนุกสนานกันอย่างเมามัน โดยไม่แคสายตาประชาชนและชาวบ้านที่มาร่วมงาน ต่างตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มของญาติเจ้าภาพประมาณ 2-3 คน กำลังทำการทุบลายปูนปั้นเก่าแก่ที่ติดอยู่บริเวณซุ้มประตูเข้าโบสถ์จนเกิดความเสียหายทั้งด้านในและด้านนอกซุ้ม  สร้างความตกใจแก่ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ ขณะเข้าร่วมงานบวชแห่นาคเข้าโบสถ์นั้น  หลังเหตุการณ์ทำให้ชาวบ้านและญาติพี่น้องของผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้นานหลายปี  ไม่พอใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากบริเวณซุ้มประตูยังมี อัฐิกระดูกของบรรพบุรุษบรรจุไว้ และยังเป็นการทำรายศาสนสถานที่ควรแก่การเคารพบูชา โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการ

คุณลุงสมาน เล่าเหตุการณ์ในวันก่อเหตุ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ต.ค.67 ที่ผ่านมาและว่า ขณะมีกิจกรรมจัดงานบุญงานบวชภายในบริเวณวัด ของคณะเจ้าภาพรายหนึ่ง ได้มีกลุ่มญาติของเจ้าภาพและวงดนตรีรถแห่มีพฤติการณ์กระทำการโดยการใช้ไม้หน้าสามตีไปที่ลวดลายปูนปั้นที่ติดอยู่บริเวณด้านบนซุ้มประตูเข้าโบสถ์แตกหักกระจัดกระจายเสียหาย บ้างก็ขึ้นยืนบนรถแล้วใช้เท้ากระโดดใส่ทำลายทิ้ง เพื่อต้องการนำรถแห่เข้าไปเวียนรอบโบสถ์ โดยอ้างว่าหลวงพ่ออนุญาตให้ดำเนินการ ซึ่งก่อนหน้าหลายปีเคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ชาวบ้านไม่พอใจ จนทำให้มีคำสั่งห้ามจากต้นสังกัดมิให้นำรถแห่เข้าภายในโบสถ์ แต่ก็ไม่มีใครฟัง  ซ้ำยังอ้างว่าหลวงพ่อสั่งดำเนินการอีก ในเรื่องนี้จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ให้ดำเนินการในทางกฎหมายเพื่อมิให้เป็นเยี่ยง เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย รวมทั้งครอบครัวผู้บริจาคปัจจัยสร้างซุ้มประตูถวายไว้ให้เป็นศาสนสถานที่ควรค่าแก่การเคารพบูชา ต่างไม่สบายใจและอยากให้ผู้กระทำการณ์ดังกล่าว เข้าขอขมาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย มาหลายสิบปี อาจ มองเป็นเรื่องเล็กแต่สำหลับชาวบ้านแล้วเป็นความรู้สึกที่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นยอย่างมาก


นัครินทร์/รายงานข่าว

error: Content is protected !!