นายภูมิธรรม เวชยชัย รอง นรม./รมว.กห. ให้การต้อนรับ กมธ.ทหารฯ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนโยบายด้านกิจการทหารและความมั่นคง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนพัฒนากองทัพ เสริมประเทศชาติให้มั่นคง และให้ประชาชนมีความสุข
วันนี้ (13 พ .ย.67) ณ ห้องยุทธนาธิการ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พลตรีธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกสนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และพลเอกไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้ การต้อนรับ พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา และคณะฯ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านกิจการทหารและความมั่นคงในมิติต่างๆ การดูแลกำลังพล การส่งเสริมคุณภาพชีวิตและศักดิ์ศรีของทหารผ่านศึก และการพัฒนายกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศสู่สากล
ในช่วงแรกของการประชุม กห. ได้นำเสนอถึงผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในด้านกิจการทหารและความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม ซึ่งประกอบด้วย 7 ด้าน คือ การปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วยให้มีขนาดกะทัดรัด และสมบูรณ์ในตัวเอง, การพัฒนารูปแบบการตรวจเลือกทหารกองประจำการเพื่อนำไปสู่รูปแบบสมัครใจโดยสมบูรณ์ในอนาคต, การพัฒนาด้านสวัสดิการของกำลังพลด้วยการปรับปรุงและจัดหาที่พักอาศัย, การพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเป็นหน่วยงานที่รองรับภารกิจด้านการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับกองทัพ, การนำที่ดินที่อยู่ในการดูแลของหน่วยทหารเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน, การพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเน้นการสร้างมากว่าการซื้อควบคู่การพัฒนาระบบงานมาตรฐานทางทหาร รวมถึงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่มในพื้นที่ จ.เชียงราย และเชียงใหม่ที่ผ่านมา
จากนั้นได้กล่าวถึงนโยบายของ รอง นรม./รมว.กห. ในด้านกิจการทหารและความมั่นคง นโยบายเฉพาะ 11 ข้อ อาทิ การพิทักษ์รักษา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, การช่วยเหลือประชาชน, การดูแลกำลังพลชั้นผู้น้อย รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกองทัพกับประชาชน พร้อมกันนี้ได้มีการบรรยายสรุปถึงแนวคิดในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตและศักดิ์ ศรีของทหารผ่านศึก ตลอดจนแนวความคิดในการพัฒนาและยกระดับอุตสาหกรรมป้องกันประเทศสู่ระดับสากล เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่คณะ กมธ.ทหารฯ
โดยในที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งนี้ รอง นรม./รมว.กห. ได้กล่าวถึงแนวคิดในขั้นต้นเพื่อแก้ปัญหาด้วยการ “เสริมความรู้ สร้างอาชีพสร้างรายได้” โดยจะเน้นในเรื่องการส่งเสริมการศึกษาพัฒนาคน การสร้างเศรษฐกิจฮาลาลรวมถึงการผลักดันให้ปัตตานีเป็นอู่ซ่อมเรือ เพื่อสร้างชุมชนให้มีความสามัคคี มีอาชีพมีรายได้ เกิดความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน
ช่วงท้ายของการหารือ พลเอกสวัสดิ์ ทัศนา ได้กล่าวว่า การให้บรรยายสรุปในวันนี้มีความชัดเจน และครอบคลุม รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็นครั้งนี้มีประโยชน์ต่อการดำเนินการของ คณะ กมธ.ทหารฯ ซึ่งทาง คณะฯ มีความพร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่งในการผลักดันเสริมการปฏิบัติของกระทรวงกลาโหมอย่างเต็มที่ในการเสริมสร้างความมั่นคง
ในโอกาสนี้ รอง นรม./รมว.กห. ได้กล่าวว่า ยินดีและขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ทุกท่านที่ได้ให้เกียรติสละเวลา ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อมุ่งพัฒนาเหล่าทัพให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้ร่วมกันหารือแลกเปลี่ยนในวันนี้นับว่าเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำไปใช้เพื่อการดำเนินงานของ กองทัพ รวมถึงการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของชาติในมิติต่างๆ กระทรวงกลาโหมจะยึดมั่นในการเป็นองค์กรหลักเพื่อปกป้อง เอกราช อธิปไตย สถาบันหลักของชาติ และผลประโยชน์ของประเทศ รวมทั้งสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยความร่วมมือและการบูรณาการจากทุกภาคส่วน โดยต้องขอให้คณะ กมธ. ทหารฯ ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป และนับเป็นโอกาสอันดีที่ทุกท่านได้หารือร่วมกันในวันนี้เพื่อเสนอแนะข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนากองทัพให้มีประสิทธิภาพ สอดรับกับนโยบายรัฐบาล และตอบสนองต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” อย่างยั่งยืนต่อไป