เจ้าของคลินิกรักษาสัตว์ ร้องกองปราบฯช่วยตามคดีถูกอดีตสัตวแพทย์กำมะลอยักยอกทรัพย์สิน หลังคดีไม่คืบ
วันนี้ วันศุกร์ที่ 1 พ.ย.62 เวลา 11.00 น.ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) : น.ส.ศิริลักษณ์ จุลเจิม อายุ 25 ปี เจ้าของคลินิกรักษาสัตว์แฮปปี้เวทแคร์ พร้อมด้วย สพ.ญ.ธนิภัทร ขจัดภัย อายุ 31 ปี เจ้าของคลินิกธนิภัทร์สัตวแพทย์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.หญิง บุญทิวา ลิ้มศิริลักษณ์ สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้ช่วยติดตามคดีที่ถูก นายธีรวุฒิ สงวนนามสกุล อายุ 48 ปี ยักยอกทรัพย์สินเป็นรถยนต์ และเงินมูลค่ารวมหลายล้านบาท ก่อนหน้านี้มีการเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายธีรวุฒิฯ ไว้ที่ สน.คันนายาว เมื่อวันที่ 5 ต.ค.62 ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร
สพ.ญ.ธนิภัทรฯ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2557 ตนได้ลงทุนเปิดกิจการคลินิกธนิภัทร์สัตวแพทย์ ขึ้นมา และได้ว่าจ้างให้ นายธีรวุฒิฯ ซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทตน ให้เข้ามาช่วยดูแลบัญชีรายรับรายจ่ายของคลินิก รวมถึงคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตนเวลารักษาสัตว์ กระทั่งเมื่อเปิดกิจการมาได้ถึงปี 61 ตนเริ่มพบเห็นความผิดปกติของบัญชีรายรับรายจ่ายของคลินิก รวมถึงมีสิ่งของจำพวก ยา วัคซีน รักษาสัตว์ ที่สต๊อกเก็บไว้หายไปแบบไม่ทราบสาเหตุ
จึงได้ทำการตรวจสอบจนพบว่านายธีรวุฒิฯ ได้มีการแอบยักเงินของคลินิกออกไปใช้ส่วนตัว รวมถึงแอบขโมยยาวัคซีน ออกไปขายต่อให้กับคนอื่น แต่เมื่อถูกจับได้ นายธีรวุฒิ กลับยังไม่ยอมรับ ทั้งยังแสดงพฤติกรมใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายตนเอง ก่อนจะขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส ซึ่งเป็นของคลินิก หลบหนีไปตนจึงไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.คันนายาว ก่อนจะมีการติดตามจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ภายหลังถูกจับกุมนายธีรวุฒิฯ ได้ให้การปฏิเสธ และขอรับการปล่อยตัวชั่วคราว อย่างไรก็ตามภายหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อสู้คดีนั้น นายธีรวุฒิฯ ก็ได้ไปสมัครงานตามคลินิกต่างๆและก่อเหตุในลักษณะเดียวกับกันคนอื่นๆ ซึ่งเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรณีของตนนั้นก็มีมากถึง 3 ล้านบาทแล้ว
ด้าน น.ส.ศิริลักษณ์ฯ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ นายธีรวุฒิฯ ถูกไล่ออกจากคลินิกดังกล่าว ก็ได้มาทำทีตีสนิทกับตน ก่อนชักชวนให้ตนนำเงินมาลงทุนเปิดคลินิกรักษาสัตว์แฮปปี้เวทแคร์ขึ้นมา โดยอ้างว่าตัวเองนั้นเป็นสัตวแพทย์ มีใบอนุญาตและใบรับรองวิชาชีพสามารถดำเนินการบริหารกิจการให้ได้ ด้วยความที่ตนเป็นคนรักสัตว์ และอยากมีคลินิกเป็นของตนเอง ประกอบกับเคยเห็นว่านายธีรวุฒิฯ แต่ก่อนทำงานอยู่ที่คลินิกอื่น จึงหลงเชื่อนำเงินมาลงทุนดังกล่าว
แต่พอเปิดกิจการได้ประมาณ 7 เดือน ก็ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมปศุสัตว์ เข้ามาตรวจสอบที่คลินิก และพบว่าไม่มีใบอนุญาตประกอบการรวมถึงยังตรวจสอบพบอีกว่านายธีรวุฒิฯ นั้นก็ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์จริงตามที่กล่าวอ้าง จึงได้มีคำสั่งปิดคลินิกของตนชั่วคราว เมื่อคลินิกถูกปิดตัวลงตนก็ได้มาทำการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของคลินิกย้อนหลังจึงทำให้ทราบความจริงอีกว่าเงินของคลินิกถูกนายธีรวุฒิฯ ยักยอกไปเป็นจำนวนกว่าล้านบาท
จึงได้ติดต่อไปสอบถามข้อเท็จจริงกับนายธีรวุฒิฯ จนเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนายธีรวุฒิฯ ก็ได้วกกลับมาที่คลินิก พร้อมกับแอบนำรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ของคลินิก ขับออกจากคลินิกไป และไม่สามารถติดต่อได้อีก ตนจึงได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับ นายธีรวุฒิฯ ไว้ที่ สน.คันนายาว เมื่อวันที่ 5 ต.ค.62 ที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงได้ตัดสินใจมาเข้าร้องทุกข์กับทางกองปราบฯ ในวันนี้เพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าทางคดี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำเพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานอื่น ก่อนจะส่งต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
Cr.เจริญผล เอี่ยมพึ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน