รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ พบปะกำลังพลมอบของบำรุงขวัญ ชี้เป็นโอกาสในการฝึกฝน ชื่นชมหน่วยฝึกมีการเตรียมการอย่างดี เน้นย้ำหน่วยฝึกดูแลทหารใหม่อย่างใกล้ชิดเหมือนสมาชิกในครอบครัว
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะฯ ได้เดินทางไปยัง กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ เพื่อตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ของหน่วย กรมทหารราบที่ 7 ,กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7, กองพันมณฑลทหารบกที่ 33 และมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี พลโท กิตติพงศ์ ชื่นใจชน แม่ทัพน้อยที่ 3 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ร่วมให้การต้อนรับ
จากนั้นได้รับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องการดูแลทหารใหม่ อาทิ นโยบายผู้บังคับบัญชาที่เน้นย้ำในการดูแลทหารใหม่อย่างดีที่สุด, ข้อมูลสถานภาพทหารใหม่, สิทธิสวัสดิการต่างๆ, รวมถึงข้อมูลการฝึก, มาตรการความปลอดภัย-การผ่อนคลาย อาทิ การติดตั้งกล้องวงจรปิด และการตรวจสุขภาพ ตรวจปัสสาวะเป็นประจำเพื่อป้องกันการเกิดโรคลมร้อน การปรับปรุงห้องน้ำติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเนื่องจากเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีอากาศหนาว พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมชมอาคารสถานที่ และลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม
ทั้งนี้ ทหารผลัด 2/67 ในค่ายกาวิละ มีผู้เข้ารับการฝึกจำนวน 392 นาย โดยจะทำการฝึกตามหลักสูตรเป็นเวลา 6 สัปดาห์ เพื่อปรับตัวจากพลเรือนเข้าสู่การเป็นทหารโดยสมบูรณ์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการฝึกท่าบุคคลเบื้องต้นฝึก และจะเข้าสู่การฝึกเฉพาะหน้าที่ในต้นเดือนหน้า ซึ่งภารกิจของ กรมทหารราบที่ 7 และหน่วยขึ้นตรง นอกจากทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบแล้ว ที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เชียงใหม่และเชียงรายจากเหตุอุทกภัย และในขณะนี้ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ รวมถึงได้จัดกำลังป้องกันชายแดนในพื้นที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในนามหน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท
โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบปะพูดคุยกับกำลังพล พร้อมกล่าวให้โอวาท ใจความตอนหนึ่งว่า “ผมมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาพบปะพูดคุยกับน้องๆทหารใหม่ผลัด 2/67 ในวันนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวกองทัพบก ไม่ว่าจะเข้ามาร่วมกันด้วยการเกณฑ์หรือสมัครใจ ผมอยากให้ทุกคนมองว่านี่คือโอกาสที่จะได้พัฒนาตนเองในมิติที่หลากหลายทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และทักษะที่จำเป็นในอนาคต การฝึกเหล่านี้จะสร้างให้ทุกคนเป็นทหารที่ดีและเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ พร้อมที่จะออกไปสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ ผมขอให้ทุกคนมั่นใจว่ากองทัพจะเป็นพื้นที่แห่งความยุติธรรม ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นคิดสามารถแก้ไขได้และผมว่าหัวใจสำคัญที่คือการปรับ mindset ทัศนคติ มุมมอง กรอบแนวคิด ซึ่งทุกส่วนจะต้องร่วมมือกัน ทั้งนี้ผมได้มอบนโยบายและกำชับหน่วยงานให้ดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด แม้การฝึกจะหนักหน่วง แต่การลงโทษเกินกว่าเหตุหรือการลงทัณฑ์ที่ผิดกฎหมายต้องไม่เกิดขึ้นอีกในกองทัพ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่ากองทัพจะดูแลน้องๆเสมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว พร้อมกันนี้ ได้กล่าวชื่นชมหน่วยฝึกที่ได้มีการเตรียมการและใส่ใจในรายละเอียดเป็นอย่างดีซึ่งจะเป็นโมเดลตัวอย่างให้กับหน่วยฝึกอื่นๆนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป”
จากนั้น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่ทหารใหม่เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ และขอบคุณที่เสียสละรับใช้ประเทศชาติ เข้ามาทำงานร่วมกันในฐานะทหารของชาติ เพื่อปกป้องประเทศและช่วยเหลือประชาชน
นที มีเดช รายงาน