องคมนตรีติดตามความก้าวหน้าโครงการปรับปรุงสนามบินทำใหม่ จ.จันทบุรี เพื่อรองรับการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและพี่น้องประชาชนภาคตะวันออก
วันนี้ เวลา 16.00 น. ที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจันทบุรี สนามบินทำใหม่จังหวัดจันทบุรี พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี และประธานกรรมการที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิฝนหลวง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า การดำเนินงานโครงการปรับปรุงสนามบินทำใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานบินปฏิบัติการฝนหลวง ตามแผนการปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อทำการบินปฏิบัติการทำฝนหลวง ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรของจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดในความรับผิดชอบของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก 8 จังหวัด ได้แก่ นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราดตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2515 จนถึงปัจจุบัน
โดยในการปฏิบัติการฝนหลวง สนามบินทำใหม่จะเป็นฐานบินปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากสนามบินอยู่ทางด้านต้นลมในฤดูแล้ง ช่วงเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม ทำให้สามารถบินปฏิบัติการทำฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งและขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรของภาคตะวันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมพื้นที่ปลูกไม้ผลของจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราด และสระแก้วตอนล่างได้ทั้งหมด
ปัจจุบันพื้นที่การเกษตรของภาคตะวันออกมีจำนวน 12.8 ล้านไร่หรือร้อยละ56 ของพื้นที่ทั้งหมด 22.8 ล้านไร่ ซึ่งได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทานจำนวน 884,354 ไร่ และพื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานจำนวน 12 ล้านไร่พืชเศรษฐกิจที่ปลูกได้แก่ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สับปะรด ทุเรียนมังคุด ลำไย เงาะ ลองกอง ยางพารา และปาล์มน้ำมัน มีมูลคำภาคการเกษตรจำนวน 7.2 หมื่นล้านบาทต่อปี
สำหรับสนามบินทำใหม่ เดิมมีพื้นที่รันเวย์เป็นดินลูกรังบดอัดแน่น ประกอบกับประสบปัญหาเป็นฝุ่นในฤดูแล้งและลื่นในช่วงหน้าฝน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงมีแผนการดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเป็นรันเวย์ราดแอสฟาติกส์คอนกรีต เพิ่มระยะทางทั้งหมดจากรันเวย์ดินลูกรัง 1,500 เมตร เป็นรันเวย์คอนกรีต 1,300 เมตรและเพิ่มระยะวิ่งจาก 980 เมตรที่รองรับได้เพียงเครื่องบินขนาดเล็กคาราแวน(CARAVAN) เป็นระยะ 1,200 เมตร เพื่อรองรับเครื่องบินขนาดกลางคาช่า (CASA) และเกิดความปลอดภัยในการบินขึ้น-ลงของเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร อีกทั้งเพื่อให้มีความเป็นมาตรฐานของสนามบินซึ่งจะส่งผลให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความมั่นใจ เกิดผลสัมฤทธิ์จากการปฏิบัติการฝนหลวงที่มีประสิทธิภาพ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรเพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำต่างๆได้มากขึ้น ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วน
พร้อมทั้งยังสามารถเป็นสนามบินสำรองหรือสนามบินฉุกเฉินและสนับสนุนภารกิจทาง การทหารและความมั่นคงได้เป็นอย่างดี ซึ่งสำหรับในปีงบประมาณ 2562 ที่ผ่านมาทางกอง ทัพอากาศ ได้ทำการออกแบบและประมาณการปรับปรุงสนามบินทำใหม่ เป็นเงิน 99,053,100 บาท และสำนักงบประมาณพิจารณาให้ใช้งบประมาณเหลือจ่ายจากกรมฝนหลวงและการบินเกษตร หรือกองทัพอากาศเสนอขอสนับสนุนงบประมาณโดยตรง อันจะเป็นการดำเนินงานตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการฝนหลวงในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎรต่อไป
ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าว จ.จันทบุรี
นาย พรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก