วันที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 น. ที่ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ให้การต้อนรับ นายรัคมัต บูดีมัน (H.E. Mr. Rachmat Budiman) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย พร้อมคณะในโอกาสเดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อหารือขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศ ไทยในระดับจังหวัด ในภารกิจการมาหารือและเยี่ยมเยือน 8 จังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อขยายความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยในระดับจังหวัด โดยมีนางศุกลรัตน์ จันทร์มณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน ศึกษาธิการจังหวัดลำพูน พาณิชย์จังหวัดลำพูน และผู้แทนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน และสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน ร่วมให้การต้อนรับและให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในนามของจังหวัดลำพูนรู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทยและคณะในครั้งนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการมาเยือนในครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการศึกษา ระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการส่งออกสินค้าลำไยสดและลำไยอบแห้ง และนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ทราบว่าประเทศอินโดนีเซียได้นำเข้าลำไยสดจากประเทศไทย รวมถึงการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้าหัตถกรรมไทย เช่น ผ้าไหมยกดอกอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดลำพูนไปยังประเทศอินโดนีเซียอีกด้วย
ด้าน นายรัคมัต บูดีมัน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย กล่าวว่า การเดินทางเยือนจังหวัดลำพูนในครั้งนี้ เป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างประเทศในระดับจังหวัด ประกอบกับในปี 2568 จะครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับสาธารณรัฐอินโดนีเซีย โดยได้กำหนดเยือน 8 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดเลย อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง แม่ฮ่องสอน และลำพูน โดยให้ข้อมูลว่า ชาวอินโดนีเซียชื่นชอบผลไม้ไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีในการขยายตลาดส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังประเทศอินโดนีเซีย เช่น ลำไย ทุเรียน มะม่วง โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซียได้นำเข้าข้าวจากประเทศไทยเป็นอันดับต้น ๆ ด้านการศึกษาและวิจัย อินโดนีเซียมีความสนใจที่จะร่วมมือด้านการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ การบริหารจัดการ การท่องเที่ยว และการเกษตร หากสถาบันอุดมศึกษาในจังหวัดลำพูนสนใจ อินโดนีเซียยินดีแลกเปลี่ยนความรู้และบุคลากร นอกจากนี้ อินโดนีเซียพร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศไทย โดยยินดีนำการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์มาเผยแพร่ให้ชาวจังหวัดลำพูนได้ชม และหวังจะส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดลำพูนให้เพิ่มมากขึ้น อนาคตจังหวัดลำพูนจะเป็นเมืองพี่เมืองน้องกับอินโดนีเซีย สถานทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย ยินดีเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างประเทศอินโดนีเซียและประเทศไทยในระดับจังหวัดและพัฒนาความร่วมมือในด้านต่างๆ ต่อไป.
นที มีเดช รายงาน