เริ่มแล้ววันนี้ งาน “Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์เทเวศร์ จำกัด” พบกับสินค้าผลผลิตจากสหกรณ์ทั่วประเทศ หวังขยายช่องทางการตลาดสินค้าคุณภาพของสหกรณ์สู่ผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2567 นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น/ผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้าสหกรณ์ ในชื่องาน “Co-op Market Fair พลังสหกรณ์ ขับเคลื่อนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น By ร้านสหกรณ์เทเวศร์ จำกัด” หวังพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตสินค้าของสมาชิกสหกรณ์ และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าของสหกรณ์ พร้อมทั้งสร้างโอกาสในการแลกเปลี่ยนรู้เจรจาธุรกิจขายสินค้า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมสินค้านาทีทอง นำผลิตภัณฑ์และสินค้าของสหกรณ์มาจำหน่ายแบบลดราคา โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24–25 ธันวาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.30–17.00 น. ณ บริเวณลานพระอนุสาวรีย์พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
นายนิรันดร์ มูลธิดา รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีความมุ่งหวังที่จะพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตสินค้าของสมาชิกสหกรณ์/เกษตรกรให้ได้มาตรฐานควบคู่ไปกับการส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และขยายช่องทางการตลาดให้ถึงมือผู้บริโภค และใช้กลไกระบบสหกรณ์เข้ามาบริหารจัดการผลผลิตให้กับเกษตรกรทำหน้าที่ในการส่งเสริมเกษตรกรผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ การรวบรวมผลผลิตเพื่อนำมาสู่กระบวนการแปรรูป และเชื่อมโยงกับภาคเอกชน เพื่อจัดหาตลาดในการจำหน่ายสินค้าไปสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรและเครือข่ายสหกรณ์ได้เจรจาธุรกิจร่วมกัน โดยกรมฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางการตลาด ได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาร้านค้าสหกรณ์ให้เป็นศูนย์กลางการจำหน่ายสินค้าเกษตร ทั้งในรูปแบบการค้าปลีกและการค้าออนไลน์ เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์และเครือข่ายสหกรณ์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังสนับสนุนการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ภาคการเกษตรและสหกรณ์นอกภาคการเกษตร เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางธุรกิจที่เข้มแข็งและยั่งยืน
“นอกจากนี้ กรมฯ มีแผนจะต่อยอดการจัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น/ผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้าสหกรณ์อีก 6 แห่ง ได้แก่ ร้านสหกรณ์กรุงเทพ จำกัด สาขาเอกมัย และสหกรณ์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสงขลา จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งจากการดำเนินงานของร้านค้าสหกรณ์ในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ที่ผ่านมาช่วยส่งเสริมให้สหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของสมาชิกเกษตรกร เป็นการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่ยั่งยืนให้กับสหกรณ์และเกษตรกร โดยช่วยให้สินค้าสหกรณ์สามารถออกสู่ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง สนับสนุนให้สินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นของประเทศไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาด เพิ่มช่องทางการตลาด สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และเชื่อมโยงการพัฒนาเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ทั่วประเทศอย่างยั่งยืนอีกด้วย” นายนิรันดร์ กล่าว
กรมส่งเสริมสหกรณ์ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมการพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น จัดโครงการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น/ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสินค้าสหกรณ์ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้เกษตรกรและเครือข่ายสหกรณ์ได้เจรจาธุรกิจ ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมการเกษตรและการค้าปลีก อันเป็นการสร้างความเชื่อมโยง ทางธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาวระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค ในขณะเดียวกันยังเป็นการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนให้สินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นของไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับ ในตลาด เพิ่มช่องทางการตลาด และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอย่างยั่งยืน โดยมีร้านค้าเข้าร่วม จำหน่ายในงาน จำนวน 20 ร้านค้า จาก 13 จังหวัด 2 พื้นที่ในกรุงเทพมหา นคร อาทิ โคเนื้อกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม, ผ้าทอไทยพวน บ้านใหม่ จังหวัดนครนายก, ผ้าทอพื้นเมือง จังหวัดสุโขทัย, ผ้าหม้อห้อม จังหวัดแพร่, ข้าวหอมขาวเจ๊ก จังหวัดชัยนาท, มะพร้าวน้ำหอม บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ,ส้มโอขาวใหญ่อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม และร้านค้าอื่นๆ จากเครือข่ายสหกรณ์อีกมากมาย
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน