ข่าวใหม่อัพเดท » กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าว เหตุรุนแรงในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี

กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าว เหตุรุนแรงในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี

4 พฤศจิกายน 2019
0

          เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 62 เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองทัพภาค 4 พร้อมด้วย พันเอกเกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และพันเอกวัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2652 ที่ผ่านมา

          พันเอกวัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า สำหรับกรณีเหตุคนร้ายปล้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด 4 ประตูจาก อบต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เพื่อนำไปก่อเหตุระเบิดบริเวณหน้า สภ.ไม้แก่น (หลังเก่า) ม.4.ต.ไทรทอง อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 62 เวลาประมาณ 22.10 น. ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และทรัพย์สินของทางราชการไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 62 เวลาประมาณ 18.00 น. คนร้ายจำนวน 3 คน ใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 สีดำ เป็นพาหนะ ปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธปืนพกสั้นจี้และมัดมือ นายนิเฮง ยานยา จนท.รักษาความปลอดภัย อบต.น้ำดำ พร้อมทั้งบังคับขึ้นรถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เรนเจอร์ สีเขียว ทะเบียน กข-5146 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถยนต์ทางราชการของ อบต.น้ำดำ และได้นำตัว นายนิเฮงฯ ไปทิ้งไว้บริเวณป่ามะพร้าวข้างกุโบร์ ม.2 บ้านน้ำดำ ซึ่งหากจากที่เกิดเหตุประมาณ 1.3 ก.ม. แล้วขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไป พร้อมกำชับว่าไม่ถึง 2.ทุ่มห้ามกลับ เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง นายนิเฮงฯ จึงได้เดินเท้าไปขอความช่วยเหลือจาก นายซาการียา อาแว กำนัน ต.น้ำดำ เพื่อติดตามคนร้ายที่ปล้นรถยนต์ของ อบต.น้ำดำต่อไป ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 22.10.น..คนร้ายได้นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวประกอบติดตั้งระเบิด (คาร์บอม) โดยนำไปจอดไว้บริเวณกำแพงด้านหน้า สภ.ไม้แก่น (หลังเก่า) ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นที่พักของ จนท. ตำรวจและครอบครัว สภ.ไม้แก่น โดยแรงระเบิดทำให้กำแพง และรถยนต์ของ จนท.ตำรวจ และประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับความเสียหายบางส่วน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

          พันเอกวัชรกร อ้นเงิน รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ EOD.และ พิสูจน์หลักฐาน ร่วมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบในพื้นที่ เพื่อค้นหาหลักฐาน และตรวจสอบวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบระเบิดบรรจุในถังแก๊สไม่ทราบขนาด และพบขวดพลาสติกคาดว่าบรรจุน้ำมัน ยังไม่พบตัวจุดชนวน ซึ่งระเบิดค่อนข้างจะทำงานได้สมบูรณ์ โดยจากการตรวจสอบเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดในพื้นที่พบพฤติกรรมของคนร้าย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ 1 เป็นรถนำ ตามด้วยด้วยรถคันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ และตามด้วยรถคันที่ 3 เป็นรถจักรยานยนต์ที่ใช้รับคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดเพื่อหลบหนี

          ด้าน พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบอีกเหตุการณ์ว่า เมื่อ 31 ต.ค.62 เวลา 22.15 น. ในพื้นที่ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี คนร้ายประมาณ 6-7 คน ใช้รถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับมาจากทาง จว.ยะลา เมื่อก่อนถึงจุดตรวจ ชคต.เขาตูม ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี กลุ่มคนร้ายได้ปิดไฟหน้ารถ และได้ใช้อาวุธปืน ขนาด 5.56 มม. (ทราบจากปลอกกระสุนที่ตกบนถนน) ยิงใส่ ฐาน ชคต.เขาตูม จำนวน 1 ชุด ประมาณ 20-30 นัด จากนั้นกำลังพลที่รักษาการณ์ บนหอสูงได้ทำการยิงตอบโต้ คาดว่ามี ผกร. ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นทั้ง 2 คันได้ขับหลบหนีไปตาม ทางหลวง 410 มุ่งหน้าไปทาง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หน่วยได้วิทยุถึงด่านที่ ต.เมาะมาวี ซึ่งเป็นด่านที่ใกล้ที่สุด ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ไม่พบรถต้องสงสัยผ่านไป แต่อย่างใด จึงคาดว่าคนร้ายได้ใช้เส้นทางรองในการหลบหนี ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้งหมดปลอดภัย

          “ต่อมา เวลา 22.50 น. ได้รับแจ้งจาก จนท.ตร.สภ.บ้านสโร่ง ว่ามี ประชาชน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและพยายามจะให้ จนท.พยาบาล รพ.สต.โสร่ง รักษา แต่ จนท.ตำรวจ ทราบข่าว จึงควบคุมตัวไปที่ รพ.ศูนย์ยะลา จากนั้นได้สอบถาม เพื่อนผู้บาดเจ็บทราบว่า ผู้บาดเจ็บ ได้โทรหาและบอกให้ออกมาพบที่สี่แยกไฟแดงตลาดมะพร้าว แต่ไม่ทราบว่านายบารี ยี ถูกยิงเพราะสาเหตุใด ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่านายบารี ยี อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงก่อกวน. ชคต. เขาตูม เนื่องจากพฤติการณ์สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าว

          ส่วนทางด้าน พันเอกปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กองทัพภาค 4 กล่าวว่า เมื่อเวลา 2210 ที่ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ชป.จรยุทธ์ ของ กรม ทพ. 44 ได้ทำการ ลาดตระเวนเส้นทางถนน ต.ปะเสยะวอ – ต.บางเก่า ตามภาพข่าวที่ปรากฏว่ากลุ่ม ผกร.จะก่อเหตุลอบวางระเบิดยานพาหนะ จนท.รัฐ ซึ่งในระหว่าง ลาดตระเวนเส้นทางดังกล่าว ได้ตรวจพบสิ่งผิดปกติ เป็นตะกร้า ใส่ผลไม้มีตาข่ายปิดบังอำพรางไว้ จึงได้ปิดกั้นพื้นที่ และประสานให้ จนท.เก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้ามาตรวจสอบ พบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบถังแก๊สปิคนิค น้ำหนักประมาณ 20 – 25 กก. จุดชนวนด้วยระบบวิทยุสื่อสาร บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกพร้อมวงจรอิเล็กทรอนิกส์ในการจุดชนวนระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกู้และนำไปตรวจพิสูจน์ ต่อไป

          “และเหตุการณ์ต่อมา เมื่อ 31 ต.ค. 62 เวลา 22.15 น. ชป.พิเศษ ฉก.ทพ.44 ทำการตั้งจุดตรวจ ตามภาพข่าวที่ปรากฏ ได้มีบุคคลชายต้องสงสัย จำนวน 2 คน แต่งกายใช้ผ้าปิดบังอำพรางใบหน้า ขับขี่รถ จยย. ไม่ทราบยี่ห้อและไม่ทราบหมายเลขแผ่นป้ายทะเบียน ขับขี่มายังด่านตรวจท่าทางมีพิรุธ จนท. จึงทำการเรียกตรวจสอบ แต่บุคคลชายต้องสงสัยทั้ง 2 คน ได้กลับรถเพื่อทำการหลบหนี ด่านตรวจของ จนท. พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนท. จึงเกิดการปะทะกันขึ้น และ จนท. ได้ใช้อาวุธปืนประจำกายทำการยิงตอบโต้ พร้อมทั้งใช้รถ จยย. ไล่ติดตามกลุ่มชายต้องสงสัย โดยกลุ่มชายต้องสงสัยได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนท. อีกครั้ง จึงเป็นเหตุให้มีการปะทะเป็นระลอก สุดท้ายรถชายต้องสงสัยล้มลงข้างทางและชายต้องสงสัยได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ จนท.ที่ไล่ติดตาม เกิดการปะทะกัน ประมาณ 5 นาที เสียงปืนสงบลง จนท.ได้เข้าตรวจสอบพบผู้ต้องสงสัยเสียในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก ยี่ห้อ บาเร็ตต้า รุ่น 92.FS.(ลบหมายเลขทะเบียน) ปลอกกระสุนจำนวนหนึ่ง แม็กกาซีน จำนวน 1 แม็ก ซองปืนพก จำนวน 1 อัน และรถ จยย.ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน กรท 316 ยะลา ตรวจสอบแล้ว เป็นของ นางพาตีน๊ะ ลาเต๊ะ ที่อยู่ ต.ละแอ อ.ยะหา จว.ย.ล. โดยรถอยู่ระหว่างการแจ้งหาย” พันเอกปราโมทย์ กล่าว

           โฆษก กองทัพภาค 4 ยังกล่าวอีกว่า สำหรับลักษณะการแต่งกายของคนร้าย พบว่าคนขับขี่รถ จยย. สวมใส่เสื้อแขนยาวสีดำทับเสื้อกีฬา สวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้ม สวมถุงมือไหมพรหมสีแดงทั้ง 2 ข้าง และใช้ผ้าปิดปาก พร้อมทั้งใช้ผ้าคลุมศีรษะปิดบังอำพราง ทราบชื่อภายหลัง คือ นายอัมรัน บือราเฮง เป็นสมาชิกแนวร่วมกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ ส่วนคนซ้อนท้าย สวมใส่เสื้อแขนยาวสีม่วงทับเสื้อกีฬาสีน้ำเงิน ใส่ถุงมือยางที่มือซ้าย พร้อมทั้งใช้ผ้าคลุมศีรษะปิดบังอำพราง ตรวจสอบ ทราบชื่อภายหลัง นายลุกมาน สาและ เป็น สมาชิกกลุ่ม ผกร.ระดับปฏิบัติการ ซึ่งจากพฤติกรรมของคนร้ายที่ตรวจพบ โดยหนึ่งในนั้น ได้เคยถูกเชิญตัวไปให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่รัฐที่ศูนย์ซักถามมาแล้ว แต่เนื่องจากได้ให้การปฏิเสธ และเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหลักฐานเพียงพอในขณะนั้น จึงได้ทำการปล่อยตัวไปทั้งนี้ได้แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจตามขอบเขตที่มีอยู่อย่างจำกัดเท่านั้น ในการค้นหาความจริงจากผู้ถูกเชิญตัวด้วยการซักถาม รวมทั้งดูแลความเป็นอยู่ในระหว่างถูกเชิญตัว ภายใต้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยที่ผ่านมา ยังมีอีกหลายกรณีที่ผู้ก่อเหตุที่ผ่านการซักถามแล้ว ยังได้ออกไปก่อเหตุการณ์ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งภายหลังเกิดเหตุการณ์ พล.ท. พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่ เร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ รวบรวมวัตถุพยาน เพื่อตรวจหาความเชื่อมโยงของอาวุธที่กลุ่มคนร้ายใช้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้หน่วยในพื้นที่ เร่งเข้าทำความเข้าใจกับประชาชนรวมทั้งญาติผู้เสียชีวิต เพื่อหาทางช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมต่อไป

ขอบคุณข้อมูล : 77kaoded

error: Content is protected !!