ข่าวใหม่อัพเดท » เสียชีวิตแล้ว!! ดญ.วัย 14 ปี ลูกหลง หลังถูก 4 มือปืน บุกยิงถล่มบ้านกลางดึก

เสียชีวิตแล้ว!! ดญ.วัย 14 ปี ลูกหลง หลังถูก 4 มือปืน บุกยิงถล่มบ้านกลางดึก

9 พฤศจิกายน 2019
0

เสียชีวิตแล้ว ดญ.วัย14ปี ลูกหลง หลังถูก4มือปืนบุกยิงถล่มบ้านกลางดึก ตำรวจรวบผู้ต้องสงสัยได้แล้ว1คนยังปากแข็งให้การปฏิเสธ

         กรณีเหตุการณ์ กลุ่มมือปืนเป็นชายฉกรรจ์ จำนวน 4 คน ขับรถยนต์เก๋งสีขาว ไม่ทราบยี่ห้อทะเบียน และรถจยย.1 คัน ใช้อาวุธปืนหลายกระบอก บุกไปตะโกนเรียกชื่อถามหานายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปี เจ้าของกระท่อมบ้านไม้ชั้นเดียวเลขที่ 88/4 หมู่ 11 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา(8พย.) แต่นายวิชัยไม่อยู่บ้านไปทำงานเฝ้าบ่อนากุ้งในหมู่บ้าน ทำให้ลูกๆและเมียที่กำลังนอนอยู่ในบ้านเกิดความกลัวไม่กล้าเปิดประตู ทำให้กลุ่มมือปืนทั้ง 4 ได้ระดมใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นและอาวุธปืน 9 มม. และ .38 ระดมยิงใส่บ้านนับสิบนัด หูดับตำไหม้เสียงดังสนั่นหมู่บ้าน จนทำให้บ้านพรุน กระสุนเจาะฝาบ้านไปเจาะศีรษะด้านซ้าย ดญ.ศศิประภาหรือน้องแตน ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้าน ที่กำลังนอนดูทีวีบนฟูกที่นอนในห้องโถงหน้าห้องนอน อาการสาหัสถูกนำส่ง รพ. มหา ราช นครศรีธรรมราช แล้วคนร้ายยังใช้อาวุธปืน กราดยิงถล่มใส่บ้านของญาตินายวิชัย ที่อยู่ใกล้ ๆ กันอีก 1 หลัง กระสุนเฉียดหน้าท้อง ดช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ขวบ ที่นอนอยู่บนบ้านชั้น 2 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่ง รพ.ท่าศาลา โดยคนร้ายยังยิงอาวุธปืนใส่รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ายาริสสีขาว ทะเบียน กต-3671 พัทลุง กระสุนเจาะกระจกหน้าและกระจกข้างและตัวถังรถจำนวน 4 รู ได้รับความเสียหายเช่นกัน และล่าสุดขณะที่คืนวันเดียวกัน ทางตำรวจชุดสืบสวน ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยมาได้ 1 ราย ชื่อนายอนุศักดิ์หรือเท่ แดงเดช อายุ 27 ปี บ้านอยู่ หมู่ 4 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกและกระสุน 1 นัด สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหายังคงปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนปากคำขยายผลอยู่

         ล่าสุดวันนี้ (9พย.) เวลา 10.00 น. ดญ.ศศิประภา หรือน้องแตน ยี่สุ่นแซม อายุ 14 ปี ซึ่งนอนรักษาตัวในห้องไอซียู รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ได้เสียชีวิตแล้ว เนื่องจากบาด แผลฉกรรจ์ถูกจุดสำคัญ แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ ซึ่งหลังรับแจ้งจากทาง รพ.แล้วนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปีและนางทัดดาว ยี่สุ่นแซม อายุ 35 ปี พ่อแม่และญาติๆของ ดญ.ศศิประภาหรือน้องแตน ถึงกับร่ำไห้โฮเป็นลมล้มพับ จนญาติต้องเข้าปฐมพยาบาลและได้รีบเดินทางไปรับศพลูกสาวที่ รพ.มหาราช นครศรีธรรมราช ด้วยบรรยากาศเศร้าโศก โดยพ่อแม่และญาตได้เดินทางไปรับศพ ดญ.ศศิประภา หรือน้องแตน ที่รพ.เพื่อนำศพมาบำเพ็ญกุศลศพต่อไป ส่วนอาการของ ดช.ภัทรพงศ์ บุหงอ อายุ 4 ปี ที่ถูกกระสุนปืนเฉียดหน้าท้อง อาการปลอดภัยแล้ว แพทย์ได้ทำบาดแผลและให้กลับบ้านได้แล้ว

         ขณะที่เช้าวันนี้ (9พย.) เวลา 09.00 น. พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ. นคร ศรีธรรมราช พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชาว์ศิลป์ บุญประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราชและกำลังตำรวจ นปพ. และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง โดยมี จนท.ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนครศรีธรรมราชและตำรวจชุดสืบสวนกำลังลงพื้นที่หาข่าว เพื่อเร่งทำการสืบสวนสอบสวน ติดตามจับกุมคนร้ายทมิฬแก๊งนี้อยู่ โดย พล.ต.ต.สนธิชัย เผยว่าคดีนี้ เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญประชาชนมาก ที่กลุ่มคนร้ายลงมือยิงถล่มบ้านอย่างโหดเหี้ยม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2 ราย ดังกล่าวได้สั่งตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด ตำรวจ นปพ. ลงพื้นที่เร่งคลี่คลายคดีจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ล่าสุดจับได้ 1 คน อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลอยู่ คาดว่าอีกไม่นานจับกุมได้หมดยกแก๊งแน่นอน ขอให้มั่นใจฝีมือตำรวจ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช กล่าวอย่างมั่นใจ

         ด้านนายวิชัย ยี่สุ่นแซม อายุ 40 ปี พ่อของ ดญ.ศศิประภา หรือน้องแตน เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีอาชีพเฝ้าบ่อนากุ้งให้กับนายทุนคนหนึ่ง ในหมู่บ้านคืนเกิดเหตุตนไม่นอนอยู่บ้านแต่ไปทำงานรับจ้างเฝ้าบ่อนากุ้ง จนมาเกิดเหตุคนร้ายจำนวน 4 คน บุกยิงถล่มบ้านของตนทำ ให้ลูกสาวของตนเสียชีวิตและหลานชายของตนเจ็บดังกล่าว ซึ่งสาเหตุตนไม่เคยมีเรื่องบาด หมางทะเลาะกับใครมาก่อน แต่เชื่อว่าน่าจะเกิดจากเหตุการณ์เมื่อเย็นวานนี้ (8พย.) ขณะที่ตนกำลังนั่งดื่มน้ำหวานอยู่ที่ร้านค้าแห่งหนึ่ง ได้มีนายเท่หรือนายอนุศักดิ์ แดงเดช เพื่อนบ้านคนหนึ่งเดินเข้ามายกแก้วน้ำหวานเทให้สุนัขกินต่อหน้าต่อตาตน ทำให้ตนโมโหกระโดดเตะนายเท่ ไป 2-3 ครั้ง และเกิดการชกต่อยกันขึ้น แต่มีผู้มาห้ามแยกย้ายตนทั้งสองออกจากกัน จากนั้นตนได้เดินทางกลับบ้าน แล้วไปทำงานเฝ้าบ่อนากุ้งต่อในช่วงค่ำ จนมาเกิดเหตุคนร้าย 4 คน อาวุธปืนครบมือบุกยิงถล่มบ้านตน ทำให้ลูกสาววัย 14 ปี เสียชีวิตและหลานชายตนเจ็บดังกล่าว ซึ่งตนเชื่อว่านายเท่หรืออนุศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้จะต้องมีส่วนรู้เห็นกับเหตุ การณ์ครั้งนี้ แน่นอน แม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธก็ตาม นายวิชัย กล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่สุด.

ธีรศักดิ์ อักษรกูล รายงาน

error: Content is protected !!