วันนี้ (13 พฤศจิกายน 62) เวลา 09.30 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบโอวาทเนื่องในโอกาสนักกีฬาไทยจะเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 30 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน -11 ธันวาคม 2562 จำนวน 1,473 คน พร้อมด้วย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผู้จัดการทีม ผู้ฝึกสอน นักกีฬา เจ้าหน้าที่เข้าร่วม โอกาสนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวสรุปรายงาน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวแสดงความยินดีนักกีฬาไทยทุกคนที่ได้เป็นตัวแทนประเทศ ไทย เพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ณ กรุงมะนิลา เมืองคลาร์ก เมืองซูบิด และเมืองลูซอน สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ขยัน หมั่นเพียรมีวินัยในการฝึกซ้อมกีฬา จึงทำให้สามารถก้าวสู่การเป็นตัวแทนทีมชาติไทยได้ ซึ่งนักกีฬายังเป็นเสมือนทูตวัฒนธรรม จึงขอให้ทุกคนช่วยกันเผยแพร่วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นหนึ่งช่องทางสื่อสารในปัจจุบัน ส่วนการแข่งขันกีฬาขอให้ระลึกอยู่เสมอว่า ชัยชนะจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา เคารพกติกา ให้เกียรติผู้ชม รู้จักแพ้ รู้จักชนะ เพราะการแข่งขันกีฬาเป็นการสร้างมิตรภาพและความสามัคคีให้เกิดขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของคนทุกช่วงวัย ควบคู่กับการเสริมสร้างสุขภาพอนามัย จึงนำการออกกำลังกายและการเล่นกีฬา มาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพให้แก่ประชา ชน เพื่อให้คนไทยมีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา คุณธรรม จริยธรรม เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนให้นำวิทยาศาสตร์การกีฬามาใช้พัฒนาศักยภาพ ด้านกีฬาทุกประเภท ให้นักกีฬาสามารถพัฒนาไปสู่นักกีฬาอาชีพ และมีความเป็นเลิศในเชิงกีฬา
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ การกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้สนับสนุนทัพนักกีฬาไทยทั้งภาครัฐ, ภาคเอกชน ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการกีฬาของชาติให้มีคุณภาพ พร้อมอวยพรให้นักกีฬาทุกคนประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ในครั้งนี้ โดยขอให้ใช้โอกาสนี้ดู ศึกษาพัฒนาการของแต่ละประเทศเพื่อนำมาปรับใช้กับประเทศเรา นำชื่อเสียงและเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมถ่ายภาพร่วมกับนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนด้วย
ขอบคุณเรื่องแนะนำจาก กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก