ข่าวใหม่อัพเดท » “จักรทิพย์” นำแถลง ความคืบหน้า คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจุดตรวจ ชรบ.ลำพะยา

“จักรทิพย์” นำแถลง ความคืบหน้า คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจุดตรวจ ชรบ.ลำพะยา

15 พฤศจิกายน 2019
0

ยะลา – “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผบ.ตร. ลงพื้นที่ จ.ยะลา ร่วมกับแม่ทัพภาค 4 และ ผบช.ภาค 9 แถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจุดตรวจ ชรบ.ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา

…..■วันนี้ (15 พ.ย.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อแถลงความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจุดตรวจ ชรบ.ตำบลลำพะยา จ.ยะลา โดยกล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, พล.ท.สมพล ปานกุล แม่ทัพน้อยที่ 4, พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพน้อยที่ 4, นายอิสระ ละอองสกุล ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, นายชัยสิทธ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า, ได้ติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านทางลุ่ม ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา พร้อมร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติหน้าที่

…..■โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนหน้า แถลงว่า เมื่อ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 22.15 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงใส่จุดตรวจ ชรบ.ทางลุ่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย และเวลาต่อเนื่องกันได้มีการสกัดกั้นการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ โดยมีการเผายาง วางระเบิดเสาไฟฟ้า และโปรยตะปูเรือใบ

  1. ยิงจุดตรวจทางลุ่ม (ชรบ.) หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา (คดีหลัก), ..
  2. วางระเบิดเสาไฟฟ้า และโปรยตะปูเรือใบใกล้ ชคต.ต้นสะเดา หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา,
  3. วางระเบิดเสาไฟฟ้าใกล้ ชคต.ลำใหม่ หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
  4. วางระเบิดเสาไฟฟ้า และเผายางรถยนต์ ตรงข้ามโรงเรียนพัฒนาอิสลามวิทยา หมู่ 3 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา
  5. โปรยตะปูเรือใบ ถนนสายสุสานจีน-ลำพะยา หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา และ
  6. เผายางรถยนต์ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านป่าพ้อฯ และเผายาง, ยิงสกัดเจ้าหน้าที่ เส้นทางสายลำใหม่-โคกโพธิ์ บ้านป่าพ้อ ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี มีพยานหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ ซึ่งจะทำให้ทราบกลุ่ม และบุคคลที่เข้ามากระทำความผิดได้หลายรายการ จากการตรวจที่เกิดเหตุเชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 40 คน

…..■จากหลักฐานในที่เกิดเหตุสรุปได้ ดังนี้ ผลตรวจปลอกกระสุนปืน ยิงมาจากอาวุธปืน จำนวน 25 กระบอก พบประวัติเคยก่อเหตุคดีความมั่นคง จำนวน 17 กระบอก ในพื้นที่ อ.เมือง กรงปินัง บันนังสตา ยะหา และ อ.กาบัง ของ จ.ยะลา, อ.เมือง โคกโพธิ์ หนองจิก และ อ.ยะหริ่ง ของ จ.ปัตตานี และ อ.เทพา ของ จ.สงขลา คดีที่สำคัญ เช่น คดีซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดร้อย ทพ.4303 เสียชีวิต 2 นาย ขณะออกลาดตระเวนภายในหมู่บ้าน ระหว่างบ้านดอนนา-บางทัน ต.บางเขา อ.หนองจิก เมื่อ 11 กันยายน 2561, คนร้ายยิง และขว้างระเบิด ชคต.บ้านกอแลปิเละ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อ 23 กรกฎาคม 2562, คนร้ายโจมตีจุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย อ.กรงปินัง จ.ยะลา เมื่อ 3 เมษายน 2560 เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นกลุ่มปัตตานี 4 อำเภอสงขลา และยะลา ซึ่งในหลายคดีเจ้าหน้าที่ได้พิสูจน์ทราบ สามารถรู้ตัวตนคนร้าย 12 ราย ยืนยันจาก DNA จำนวน 3 คน ซึ่งออกหมายจับ ป.วิอาญา ได้ดังนี้.

  1. นายนัสรูเลาะห์ สะมะ ผู้ก่อการร้าย รับผิดชอบพื้นที่ ต.ท่าสาป อ.เมือง จ.ยะลา เกี่ยวข้องกับเหตุเผาชินวร, วางระเบิด ชคต.ท่าสาปฯ สอบเป็นพยานในคดีแล้วขอกลับภูมิลำเนา ปัจจุบันไม่สามารถติดตามตัวได้
  2. นายซะอุดี ติงอุเซ็ง อยู่ในชุดปฏิบัติการของ นายนอร์ดิน หะยีอาซา ผู้ก่อการร้าย รับผิดชอบพื้นที่ ต.ตาเนาะปูเตาะฯ มีหมายจับ 6 หมาย เคยถูกจับกุมเมื่อปี 2558 ศาลพิพากษายกฟ้อง ต่อมาได้ถูกออกหมายจับอีก 2 หมาย และ
  3. นายอาดัม มุสอดี ผู้ก่อการร้าย ในพื้นที่ อ.ยะหา และ อ.กาบัง จ.ยะลา เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตี ชคต.บาโระ, เผาสำนักงานการไฟฟ้ากาบัง โดยทั้ง 3 คนได้ออกหมายจับ และประกาศสืบจับแล้ว อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ซึ่งตรงกับคำรับบางส่วนของผู้ถูกควบคุมว่า ชุดบันนังสตาเป็นชุดโจมตี ชุดปัตตานีเป็นชุดระวังป้องกัน

…..■นอกจากนี้ ยังพบรอยเลือด 5 รอยที่ไม่ตรงกับผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ซึ่งเชื่อว่าเป็นของคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ ซึ่งรอยเลือด 5 รอยระบุได้ 1 คน คือนายซะอุดี ติงอุเซ็ง ตามที่กล่าวมาแล้ว ส่วนรอยเลือดอีก 4 รอย อยู่ระหว่างการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อระบุตัวบุคคลรอตรวจเปรียบเทียบ จำนวน 5 โปรไฟล์

…..■ส่วนระเบิดที่วางเสาไฟ 3 จุด มีตำหนิของเอกลักษณ์ที่ตรงกันทั้ง 3 ลูก จึงเชื่อว่าประกอบพร้อมกันโดยบุคคลเดียวกันในพื้นที่บาตัน ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการซักถาม วันที่ 8-9 พฤศจิกายน 2562 ควบคุมตัว 11 คน ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาแล้ว 6 คน บางส่วนผลการซักถามรับสารภาพ 14 พฤศจิกายน 2562 จึงขยายผลตรวจค้นควบคุมตัวเพิ่มเติม 6 คน และอยู่ระหว่างซักถามขยายผล และพิสูจน์ทราบคำซักถามรวม 11 คน

…..■ด้าน พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุคนร้ายโจมตีจุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังเกิดเหตุ ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมวัตถุพยานที่เก็บได้จากสถานที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ปลอกกระสุนปืนชนิดต่างๆ รอยเลือดตามเส้นทางถอนตัวหลบหนี และวัตถุพยานอื่นๆ ซึ่งคาดว่าเป็นของคนร้ายไปทำการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และตรวจหาสารพันธุกรรม เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายคนร้ายที่ก่อเหตุ

…..■นอกจากนี้ ยังได้ร่วมประชุมหน่วยงานด้านการข่าว เพื่อวิเคราะห์ และกำหนดเป้าหมายบุคคลต้องสงสัย และพื้นที่ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบซ่อนตัว จนนำไปสู่การเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ สามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยรวม จำนวน 11 ราย ปัจจุบันควบคุมตัวเพื่อซักถาม ณ หน่วยซักถาม ฉก.ทพ.41, ฉก.ทพ.43 และศูนย์ซักถาม ขกท.สน.จชต.(ค่ายอิงคยุทธบริหาร) ซึ่งจากผลการซักถาม และตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในขั้นต้น สามารถระบุตัวคนร้ายได้แล้ว 12 ราย ออกหมายจับแล้ว 3 ราย และจะทยอยออกหมายจับในส่วนที่เหลือต่อไป

…..■ทั้งนี้ เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงดังกล่าวเป็นบุคคลอันตราย และเคยก่อเหตุมาแล้วคนละหลายครั้ง จึงขอความร่วมมือช่วยกันแจ้งเบาะแส และร่วมปฏิเสธกลุ่มขบวนการสุดโต่ง BRN สำหรับผู้ให้การสนับสนุน หรือให้ที่พักพิงจะมีความผิดตามกฎหมายในอัตราโทษเดียวกับผู้ก่อเหตุรุนแรง สำหรับผลการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมจากรอยเลือดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดให้ทราบต่อไป

…..■โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติทุกขั้นตอนของกฎหมายด้วยความระมัดระวัง และเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใสภายใต้การรับรู้ของผู้นำ 4 เสาหลัก และญาติ โดยยืนยันว่าไม่มีการซ้อมทรมานดังที่สื่อแนวร่วม หรือบางฝ่ายพยายามบิดเบือนโจมตีในช่วงที่ผ่านมา และพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน เข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลา หรือหากยังมีข้อสงสัยพร้อมที่จะเปิดหลักฐานจากกล้องวงจรปิดให้ดูได้เช่นกัน


…..■ ภายหลังจากเกิดเหตุโศกนาถกรรมสังหารหมู่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้กรุณาสั่งการให้ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนมากยิ่งขึ้น โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้ปรับแผนในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ โดยปรับรูปแบบการปฏิบัติของชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านเป็นแบบจรยุทธ์ ไม่เป็นเวลาโดยไม่ให้อยู่ประจำที่ป้อม จัดชุดจู่โจมเคลื่อนที่เร็วส่งลงทางอากาศ ณ ที่หมาย และให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุโดยหน่วยเฉพาะกิจประจำพื้นที่ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ลงไปร่วมซักซ้อมร่วมปฏิบัติงาน โดยให้ระดับผู้บังคับบัญชาได้ติดตาม/ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน เพื่อเสริมสร้างขวัญ และกำลังใจอย่างต่อเนื่อง

…..■รวมไปถึงการขยายพื้นที่รับผิดชอบของกำลังทหารหลัก และกำลังทหารพรานให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้าน ตลอดจนดำเนินการตามแผนพิทักษ์ประชาชน และทรัพยากรในหมู่บ้านเพื่อจำกัดเสรีผู้ก่อเหตุรุนแรง และปัญหายาเสพติด/ภัยแทรกซ้อนอื่นๆ และสร้างการรับรู้ และกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านเวทีสภาสันติสุขทั้ง 290 ตำบล เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะการแก้ปัญหา รวมทั้งการออกมาประกาศจุดยืนเพื่อต่อต้าน และปฏิเสธการใช้ความรุนแรงของกลุ่มขบวนการ BRN ในทุกรูปแบบ

…..■ทั้งนี้ จากสถานการณ์ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ยืดเยื้อมากว่า 15 ปี จากการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมสุดโต่ง เผด็จการ เป็นอาชญากรที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิต และทรัพย์สิน สูญเสียโอกาสในการพัฒนาในทุกรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังที่กล่าวถือเป็นปัญหาภายในประเทศที่เกิดจากคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งล้วนเป็นพลเมืองของไทย รัฐจึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายของประเทศไทยที่มีอยู่เข้าดำเนินการ เพราะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่พื้นที่สงคราม หรือพื้นที่ความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ที่จะต้องปฏิบัติภายใต้กติกาสงคราม หรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (IHL) ดังที่บางองค์กรพยายามกล่าวอ้าง เพื่อยกระดับปัญหาไปสู่ระดับสากล

…..■โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งรัดแก้ปัญหาให้ครอบคลุม ทั้งมิติความมั่นคง การสร้างความเข้าใจ และการพัฒนาเพื่อความมั่นคง ตามแนวทางการเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสรับฟังความคิดเห็น และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสภาวะให้เกื้อกูล และหนุนเสริมกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข นำพาสันติสุขสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ภาพ/ข่าว อับดุลมาลิก เจ๊ะตีรอกี / ศูนย์ข่าว3จังหวัดชายแดนภาคใต้

สำนักข่าวความมั่นคง

error: Content is protected !!