เมื่อวันที่ 29 พ.ค.62 : พลตำรวจโท สมพงษ์ ชิงดวง รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รรท.ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สรายุทธ สงวนโภคัย,พลตำรวจตรี อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบช.สตม.),พลตำรวจตรี พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.สส.สตม.),พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบก.ตม.3 บช.สตม.),พันตำรวจเอก ภาส สิริสุขะ รองผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 กองบัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รองผบก.ตม.3 บช.สตม.),พันตำรวจเอก นิคม เทียนห้าว ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผกก.5 บก.รน.บช.ก.),นายสวัสดิ์ หอมปลื้ม รองนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี,นายกมลนัท เจนวานิชยานนท์ ปลัดเทศบาลเมืองแสนสุข จ.ชลบุรี,นายเฉลิมเกียรติ กาญจนาคาร ประมง จ.ชลบุรี,นายสรเมษ ชโลวัฒนะ หัวหน้า หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล จ.ชลบุรี และจัดหางาน จ.ชลบุรี
ได้สั่งการให้ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี (ตม.จ.ชลบุรี) ออกสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีการร้องเรียนนายทุนชาวไทยนำต่างด้าวเข้าประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านแย่งอาชีพคนไทย โดยให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิเช่น ประมงจังหวัด,ตำรวจน้ำ,จัดหางานจังหวัดชลบุรี,ทหารเรือ และตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจสอบพื้นที่ซึ่งมีการทำประมงพื้นบ้านโดยใช้แรงงานต่างด้าว เข้าลักษณะใช้ชื่อคนไทยจดทะเบียนเรือ แล้วนำต่างด้าวสวมรอยทำประมง ตบตาเจ้าหน้าที่ หรือมีการสนับสนุนในลักษณะเป็นตัวแทนอำพราง และให้ความช่วยเหลือโดยนำเรือประมงของนายทุนไทยมาประกอบธุรกิจ เข้าข่ายต่างชาติมาแย่งอาชีพ “ประมงพื้นบ้าน” ตามภาพข่าวของสื่อมวลชนที่ได้นำเสนอมาก่อนหน้านี้
โดยเมื่อวันที่ 27 พ.ค.62 ตม.จ.ชลบุรี ได้เข้าพบ นางจุฑารัตน์ ศิริสมบัติ เจ้าพนักงานประมง (อาวุโส) หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านการประมงเพื่อขอทราบข้อมูลบุคคลต่างด้าวซึ่งได้รับอนุญาตการขึ้นทะเบียนคนประจำเรือ (Seabook ) ซึ่งต่างด้าวใช้สำหรับปฏิบัติงานบนเรือประมง พร้อมทั้งขอข้อมูลสถิติและตัวอย่างเอกสารดังกล่าวไว้ประกอบในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ตม.จ.ชลบุรี และยังได้เข้าพบนายสรเมษ ชโลวัฒนะ เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามประมงทะเล กองตรวจการประมง กรมประมง ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชุดในการตรวจสอบเรือประมงในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อขอทราบข้อมูลการจับกุมดำเนินคดี และพื้นที่ซึ่งมีการกระทำผิดในกรณีดังกล่าว จากนั้นได้มีการบูรณาการกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่สุ่มเสี่ยงการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าวจำนวน 3 แห่ง คือ
1.บริเวณถนนติดฝั่งทะเลโดยรอบเขาสามมุก ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
2.บริเวณท่าเทียบเรือซอยวัดบางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
3.บริเวณสะพานปลาซอยนาเกลือ 12 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยการปิดล้อมตรวจค้นเมื่อวันที่ 28-29 พ.ค.62 มีการตรวจสอบต่างด้าวจำนวนทั้งสิ้น 235 ราย มีผลการปฏิบัติมีดังนี้
- หลบหนีเข้าเมือง 23 ราย
- จับกุมเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน 2 ราย
- ใช้บุคคลประจำเรือไม่มีหนังสือคนประจำเรือ (sea book ) 1 ราย
ทั้งนี้ได้ปฏิบัติตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้กองบัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บช.สตม.) ดำเนินการตรวจสอบและกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย รวมถึงแรงงานประมงผิดกฎหมาย ที่เข้ามาแย่งที่ทำกินของคนไทย และเข้ามาก่ออาชญากรรมในราชอาณาจักร
การแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งสาธารณชน และขอความร่วมมือในส่วนของประชาชน และสถานประกอบการ เกี่ยวกับการให้ที่พักอาศัยต่างๆ แก่คนต่างด้าว และสื่อมวลชนในการแจ้งเบาะแสคนต่างด้าวที่มีกระทำผิด กฎหมาย หากพบสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ Call Center 1178 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือ งานสืบสวน ตม.จ.ชลบุรี 038-110636
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.สตม.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน