วันนี้ (17 ธันวาคม 2562) เวลา 08.30 น. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ บริเวณด้านหน้าตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมนิทรรศการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ จำนวน 2 คณะ ได้แก่ 1) นิทรรศการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม “ผลงานนักเทคโนโลยีดีเด่นประจำปี 2562” 2) การประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นำคณะผู้บริหารสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประชาสัมพันธ์ผลงาน “นักเทคโนโลยีดีเด่นประจำปี 2562” และนำเสนอตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นบัญชีนวัตกรรม อาทิ 1) รถมินิบัสอลูมิเนียม น้ำหนักเบา ประหยัดเชื้อเพลิง ไม่เป็นสนิมและมีการประเมินโครงสร้างที่ปลอดภัยที่สุด 2) ผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟสูง สามารถเชื่อมต่อ internet และเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรอง PM 2.5 3) การพัฒนาแพลตฟอร์มเทคโนโลยีฐานด้านการบูรณาการระบบ เพื่องานหุ่นยนต์ระบบอัตโนมัติ และปัญญาประดิษฐ์สำหรับใช้งานในระบบอุตสาหกรรม 4.0 4) โครงการสื่อการสอนโปรแกรมมิ่งในโรงเรียน AI 5) เครื่องทำน้ำร้อนประหยัดพลังงาน แบบฮีทปั๊ม และเครื่องปรับอากาศระบบ Hybrid Solar ประหยัดพลังงาน และ 6) เครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย ทั้งนี้ เพื่อเชิดชูนักเทคโนโลยีไทยที่สร้างผลงานด้านการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งเป็นการผลักดันให้ผลงานวิจัยได้เชื่อมโยงไปสู่ตลาดธุรกิจได้อย่างแท้จริง
จากนั้น นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำคณะผู้บริหารกรมการแพทย์แผนไทยเข้าพบ เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์การประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทย เป็นตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ขององค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ UNESCO นวดไทย ถือเป็นมรดกภูมิปัญญาที่เป็นศาสตร์และศิลป์เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับหลักธรรมทางพุทธศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่นและพุทธศาสนา และเป็นการรักษาทางเลือกควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพตามแบบแผนตะวันตกสมัยใหม่
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมหน่วยงานพร้อมแนะนำการผลิตนวัตกรรมว่า ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย คุณภาพ และราคา โดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค และนำไปพัฒนาขยายผลนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือร่วมใจกันศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อนำไปพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ขึ้นเป็นของเราเองเพื่อให้บริการประชาชน พร้อมฝากประชาชนคนไทย ร่วมกันอนุรักษ์ พัฒนา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมไทยด้วย
ขอบคุณข้อมูล : กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก